5 นักสู้ดาวเด่นที่แจ้งเกิดใน วัน แชมเปียนชิพ ปี 2019

ตลอดปี 2019 บนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ เต็มไปด้วยความมันเร้าใจจากบรรดานักกีฬาการต่อสู้นับพันคน ทั้งในกติกาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รวมถึง มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง ซึ่งรวมเรียกว่า วัน ซูเปอร์ ซีรีส์

ท่ามกลางยอดฝีมือจากนานาประเทศบนสังเวียนแห่งนี้ เราได้คัดเลือก 5 คนที่แจ้งเกิดและโดดเด่นมากที่สุดในปี 2019 มารวบรวมไว้ที่นี่ มีใครบ้างไปดูกัน

 

#1 รีเกียน เออร์เซล

 

“The Immortal” รีเกียน เออร์เซล สานต่อความสำเร็จต่อเนื่องจากปี 2018 หลังคว้าชัยเหนือ “Quake” แบรด ริดเดลล์ เมื่อเดือนเมษายน ก่อนจะเปิดหัวปี 2019 ด้วยชัยชนะแบบน็อกเอาต์ต่อ  “The Assassin” แอนโทนี เอ็นโจกัวนี ในศึก ONE: CALL TO GREATNESS เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และด้วยฟอร์มอันแข็งแกร่งนี้ เขาจึงคว้าตั๋วเข้าชิงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต ในเวลาต่อมา

รีเกียน ขึ้นสังเวียนเผชิญหน้าเจ้าตำรับคิกบ็อกซิ่งชาวดัตช์เพื่อนร่วมชาติเดียวกันอย่าง “The Natural” นิกี โฮลสเกน ในศึก ONE: ENTER THE DRAGON เมื่อเดือนพฤษภาคม และทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการผงาดนั่งบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่กลับมารีแมตช์กันอีกครั้งในเดือนตุลาคม ที่ศึก ONE: DAWN OF VALOR คราวนี้ รีเกียน ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่ง หลังเป็นฝ่ายย้ำแค้นอย่างไร้ข้อกังขา แจ้งเกิดและโดดเด่นอย่างเต็มตัวในปี 2019

 

#2 อิเลียส เอ็นนาฮาชิ

 

น้องใหม่ในองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก “Tweety” อิเลียส เอ็นนาฮาชิ ได้รับบททดสอบสุดหิน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ “The Baby Shark” เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี เพื่อชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ในศึก ONE: DREAMS OF GOLD ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

คิกบ็อกเซอร์ดีกรีแชมป์โลก 6 สมัยชาวดัตช์-โมร็อกโก มาในฐานะผู้ท้าชิงและทิ้งทุ่นระเบิดโครมใหญ่ใส่อดีตแชมป์โลกชาวไทย ก่อนกระชากเข็มขัดแชมป์โลกไปครอง ท่ามกลางความตะลึงของกองเชียร์ในอิมแพ็ค อารีน่า และทั่วโลก

เอ็นนาฮาชิ ขึ้นสังเวียนอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน เพื่อป้องกันบัลลังก์จากผู้ท้าชิงคู่ปรับเก่าที่เคยผลัดแพ้ชนะกันมาแล้วคนละครั้งอย่าง “Metal Storm” หวัง เวินเฟง ในฐานะคู่เอกของศึก ONE: AGE OF DRAGONS และเอาชนะไปได้อย่างสูสี

แม้ว่า เอ็นนาฮาชิ จะก้าวสู่ วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 แต่เขาได้พิสูจน์แล้วว่า เขาคือราชาคิกบ็อกซิ่งแห่งรุ่นฟลายเวตที่แท้ทรู

 

#3 เหงียน ตรัน ดุย งัด 

 

นักสู้ความหวังใหม่ของชาวเวียดนาม “No.1” เหงียน ตรัน ดุย งัด สร้างไฮไลต์สุดเดือดให้กับศึก ONE: IMMORTAL TRIUMPH ในบ้านเกิดของเขาที่โฮจิมินห์ซิตี้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมประกาศตัวเป็นนักมวยไทยดาวเด่นของรุ่นฟลายเวตได้อย่างสมศักดิ์ศรี หลังเผด็จศึกนักชกจากมาเลเซีย “อัซวาน เจ วิล” ได้ก่อนครบยก

ก่อนจะตอกย้ำความเป็นยอดฝีมือด้วยการน็อกเอาต์คู่ต่อกรจากแดนซากุระ “ยูตะ วาตานาเบะ” ในศึก ONE: EDGE OF GREATNESS เมื่อเดือนพฤศจิกายน เป็นการปิดท้ายการไต่อันดับนักล่าเข็มขัดแชมป์โลกปี 2019 อย่างสวยงาม

 

#4 ธานฮ์ เล

 

“ธานฮ์ เล” เปิดตัวกับ วัน แชมเปียนชิพ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และในเดือนสิงหาคม เขาก็กลายเป็นคู่แข่งขันตัวท็อปของรุ่นเฟเธอร์เวต ที่ยืนอยู่แถวหน้าในการท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกได้

นักสู้ชาวเวียดนาม-อเมริกัน ฝากผลงานอันน่าจดจำจากการชนะน็อก “Maestro” ยูซูป ซาดูลาเอฟ ในศึก ONE: FOR HONOR ก่อนโค่นอดีตแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวต “No Face” โกเทตสึ โบกุ ด้วยเวลาเพียง 88 วินาทีที่ศึก ONE: DREAMS OF GOLD

ชัยชนะสองไฟต์รวดทำให้สถิติการปิดเกมของเขาอยู่ที่ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม จากการชนะน็อกเอาต์ 9 ครั้ง และซับมิชชัน 1 ครั้ง ทั้งยังทำให้เขากลายนักกีฬาแถวหน้าที่มีโอกาสในการชิงบัลลังก์รุ่นเฟเธอร์เวตกับแชมป์โลกคนปัจจุบันอย่าง “The Situ-Asian” มาร์ติน เหงียน อีกด้วย

 

#5 อายากะ มิอูระ

 

“อายากะ มิอูระ” นักสู้สาวผู้เก่งกาจด้านการปล้ำ สร้างชื่อกับองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยชัยชนะสองไฟต์ในปี 2019 ด้วยการปิดจ็อบอดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวตสองรายอย่าง “La Gladiadora” ลอรา บาลิน ภายใน 73 วินาที ที่ศึก ONE: CALL TO GREATNESS ก่อนที่จะจัดการซับมิชชัน  “Marituba” ซามารา ซานโตส ในศึก ONE: DAWN OF HEROES เมื่อเดือนสิงหาคม ด้วยเวลาเพียง 39 วินาทีของยกที่สอง

แม้ว่าคู่แข่งจะเตรียมตัวรับมือกับความแข็งแกร่งของเธอ แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งเธอได้ โดยเฉพาะท่า scarfhold armlock ไม้ตายของเธอ ซึ่งใช้ปิดเกมคู่ต่อสู้มาแล้วถึง 5 ครั้ง เห็นได้ชัดว่ามันยังคงมีประสิทธิภาพสูงสุด

คำถามคือ มิอูระ จะกำราบคู่แข่งขันคนแรกของปี 2020 อย่าง “ไมรา มาซาร์” ในศึก ONE: A NEW TOMORROW วันศุกร์ที่ 10 มกราคมนี้ได้หรือไม่ และจะสามารถไต่อันดับขึ้นไปเป็นผู้ท้าชิงสุดอันตรายของแชมป์โลกคนปัจจุบันอย่าง “The Panda” ซง จิง หนาน ได้สำเร็จหรือเปล่า

 

อ่านเพิ่มเติม: “แสตมป์” เผยแผนสยบ “พูจา โทมาร์” คว้าชัยในบ้านเกิด