จุดเปลี่ยนชีวิต “ทาเครุ เซกาวา” จากหมดอนาคตทางการเรียน สู่ซุปตาร์คิกบ็อกซิ่งแดนปลาดิบ

Takeru Segawa

ทำความรู้จัก “ทาเครุ เซกาวา” ผ่านเรื่องราวชีวิตสุดวิบากที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ก่อนเปิดตัวครั้งแรกกับ ONE ในฐานะผู้ท้าชิงบัลลังก์ “ซุปเปอร์เล็ก” 

“ทาเครุ เซกาวา” ซูเปอร์สตาร์คิกบ็อกซิ่ง วัย 32 ปี จากญี่ปุ่น เตรียมประเดิมผลงานครั้งแรกใน ONE ด้วยการท้าชิงบัลลังก์จาก “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) วัย 28 ปี ขวัญใจชาวไทย ในศึกใหญ่ ONE 165: ซุปเปอร์เล็ก vs ทาเครุ ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 ม.ค.นี้ ณ อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 


240128 TYO ONE165 SuperlekVsTakeru TH


“ทาเครุ” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในคิกบ็อกซิ่งที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ การันตีได้จากความสำเร็จบนสังเวียนที่คว้าเข็มขัดมาครองได้เป็นกอบเป็นกำ โดยชื่อของเขากลายเป็นที่สนใจของแฟนกีฬาต่อสู้ทั่วโลกอีกครั้ง หลังได้โอกาสท้าชิงบัลลังก์จาก “ซุปเปอร์เล็ก” วันนี้เราจะพาไปย้อนดูเรื่องราวเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของไอคอนแห่งวงการคิกบ็อกซิ่งแดนซามูไรที่หลายคนรู้แล้วอาจจะต้องทึ่ง


#เด็กหนุ่มผู้เติบโตมากับธรรมชาติ


สำหรับ “ทาเครุ” เกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.34 ในเมืองยานาโกะ เมืองที่เต็มไปด้วยแหล่งธรรมชาติทั้งภูเขาและทะเลสาป โดยเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวจากพี่น้องทั้งหมด 3 คน ชีวิตในวัยเด็กของ “ทาเครุ” ถูกเลี้ยงมาอย่างสุขสบาย เขามักจะใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติในละแวกบ้านของเขา

“ผมมีพี่สาวและน้องสาวอย่างละคนครับ ผมสนิทกับพี่น้องทั้งสองคนมาตั้งแต่เด็ก ตอนเด็ก ๆ ผมซนเป็นลิง ชอบออกไปเล่นตามภูเขา แม่น้ำ และทะเลที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติครับ”


#คาราเต้ คือจุดเริ่มต้น


ศิลปะการต่อสู้ถือเป็นกีฬาที่ชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือพ่อของ “ทาเครุ” ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของกีฬามวยปล้ำ จึงทำให้ในทุก ๆ วัน เขาและพ่อมักจะเฝ้ารอชมการแข่งขันอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งทำให้ “ทาเครุ”ซึมซับความหลงใหลในกีฬาการต่อสู้ตั้งแต่นั้นมา



ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 รายการ K-1 ในญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีเหล่านักกีฬาคิกบ็อกซิ่งชั้นนำจากทั่วโลกมาปรากฏตัว และมีหลายคนเป็นนักกีฬาคาราเต้ฝีมือขั้นเทพที่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ในรายการนี้ จากจุดนี้เอง “ทาเครุ” จึงเริ่มก่อร่างสร้างฝันที่จะเป็นแชมป์คิกบ็อกซิ่ง K-1 โดยตัดสินใจเริ่มเรียนวิชาคาราเต้ ด้วยความหวังว่าเขาจะได้โอกาสขึ้นไปเฉิดฉายบนเวทีชื่อดังของประเทศ

“ตอนเด็ก ๆ ผมฝันมาตลอดว่าจะเป็นแชมป์คิกบ็อกซิ่ง ผมดูรายการ K-1 ทางทีวี และผมเห็นนักคาราเต้หลายคนซึ่งผมก็ชื่นชมพวกเขา และผมคิดว่าถ้าผมเล่นคาราเต้ บางทีอาจจะทำให้ผมได้เข้าไปสู่ K-1 ผมจึงเริ่มเรียนคาราเต้ตั้งแต่อยู่ชั้น ป.2 ครับ”


#หมดอนาคตทางการเรียน


แม้ “ทาเครุ” จะรู้สึกสนุกกับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังมองไม่เห็นหนทางว่าศิลปะการต่อสู้จะกลายเป็นสิ่งที่หาเลี้ยงชีพได้อย่างไร เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อในชั้นมัธยมปลายเพื่อค้นหาเส้นทางอนาคตของตัวเอง แต่โชคชะตากลับไม่เป็นใจ เขาเลือกคบเพื่อนผิดจนชีวิตเปลี่ยนถึงขั้นโดนไล่ออกจากโรงเรียน และเมื่อเป้าหมายด้านการศึกษาของเขามีอันต้องดับวูบลง “ทาเครุ” จึงตัดสินใจทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับศิลปะการต่อสู้อย่างเต็มกำลัง 

“ผมโดนไล่ออกหลังจากเข้าเรียนได้เพียงแค่ 3 เดือนครับ นั่นทำให้ผมรู้สึกไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากต้องประสบความสำเร็จในศิลปะการต่อสู้เท่านั้น จนวันหนึ่งผมได้ค้นพบยิมคิกบ็อกซิ่งและฝึกซ้อมที่นั่นเป็นครั้งแรก ผมรู้ได้ทันทีว่านี่คือสิ่งที่ผมอยากทำมานานแล้ว ผมจำได้ว่าผมมีความสุขมากเรียกได้ว่าศิลปะการต่อสู้ช่วยให้ผมกลับมาอยู่ในทางที่ถูกที่ควรอีกครั้งครับ”


#เรียนรู้วิถีนักสู้ไทย


หลังจากค้นพบเส้นทางชีวิตใหม่ “ทาเครุ” ก็กลายเป็นนักกีฬาการต่อสู้ที่เจนจัดในศาสตร์หลายแขนงทั้งคาราเต้ คิกบ็อกซิ่ง มวยไทย และมวยสากล อย่างไรก็ตาม เขายังต้องการที่จะยกระดับฝีมือขึ้นไปอีกขั้น จึงตัดสินใจบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาฝึกซ้อมที่ประเทศไทย สถานที่ที่เต็มไปด้วยเหล่ายอดฝีมือระดับโลกมากมาย ซึ่งการมาเมืองไทยของ “ทาเครุ” นอกจากจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตนักสู้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ยังทำให้ทัศนคติในเส้นทางอาชีพเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง



“ตอนผมอยู่ที่ญี่ปุ่น ผมฝึกศิลปะการต่อสู้เพราะความชอบ มันจึงเป็นเหมือนงานอดิเรกสำหรับผม แต่หลังจากที่ผมมาอยู่เมืองไทย ผมพบว่าเพื่อนในยิมที่รุ่นราวคราวเดียวกับผมทุกคนต่างก็ชกมวยเพื่อหาเลี้ยงชีพกันทั้งนั้น พวกเขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือครอบครัว และนั่นทำให้ทัศนคติของผมที่มีต่อการต่อสู้เปลี่ยนไป”

“ความเข้มแข็งของคนที่พยายามดิ้นรนเลี้ยงชีวิตนั้นน่าทึ่งสำหรับผม ผมประทับใจมาก และผมคิดว่าผมจะต้องมีแรงผลักดันแบบนี้ด้วยเหมือนกัน นั่นทำให้ผมหันมาโฟกัสกับศิลปะการต่อสู้มากขึ้นครับ”


#มุ่งสู่จุดสูงสุดของอาชีพนักสู้


หลังจากประสบความสำเร็จในระดับสมัครเล่น “ทาเครุ” ก็ก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับอาชีพ โดยเขาเริ่มไต่เต้าจากเวทีระดับภูมิภาค กระทั่งในปี 2557 เขาก็บรรลุความฝันได้เป็นนักคิกบ็อกซิ่งของ K-1 สมใจ ซึ่งเขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ตัวฉกาจได้หลายรายจนคว้าเข็มขัดแชมป์มาครองได้ถึงสามรุ่น พร้อมทั้งรักษาบัลลังก์โดยไม่เสียตำแหน่งให้กับใครยาวนานถึง 7 ปี

เมื่อไม่เหลือคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อ “ทาเครุ” จึงเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ท้าทายกว่านั่นคือการก้าวเข้าสู่ชายคาองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ONE ที่เต็มไปด้วยยอดฝีมือระดับพระกาฬจากกีฬาหลายแขนง



“ONE เป็นองค์กรที่มีนักสู้จากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกัน เนื่องจากที่นี่เต็มไปด้วยยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทุกราย ผมจึงอยากทดสอบฝีมือตัวเองในองค์กรนี้ และผมดีใจมากที่ได้รับสัญญาครับ”

“แน่นอนว่าการเป็นแชมป์โลกใน ONE คือสิ่งที่ผมตั้งเป้าไว้ ผมอยากชนะและจะมอบชัยชนะนั้นให้แฟน ๆ ทุกคนที่สนับสนุนผมตลอดหลายปีที่ผ่านมาครับ”

สำหรับประเทศไทย ศึก ONE 165: ซุปเปอร์เล็ก vs ทาเครุ จะถ่ายทอดสดในรูปแบบเพย์-เพอร์-วิว (PPV หรือจ่ายเงินเพื่อรับชม) ซึ่งแฟนกีฬาสามารถซื้อ PPV Card ล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ได้ที่ลิงก์นี้>> https://visit.onefc.com/165GlobalPPV  ราคาเพียง 99 บาท (เฉพาะผู้ชมในประเทศไทยเท่านั้น) และซื้อบัตรเข้าชมในสนามล่วงหน้าผ่านทาง Rakuten Ticket

ดูวิธีการซื้อ PPV เพื่อรับชมการถ่ายทอดสดศึก ONE 165: ซุปเปอร์เล็ก vs ทาเครุ ได้ที่นี่

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

Cover_OFN22_WeiRui06
Youngest_Champions ONE 1920x1278
ZZZ_5900 scaled
OL 58 Jaosuayai vs Kongthoranee (30)
Jake Peacock web
OFN11   Regian Eersel vs Dmitry Menshikov44
ONE_TH adhoc 1920x1278 (1)
Kade and Tye Ruotolo
Untitled
Ryosuke Honda vs Sanzhar Zakirov OL 54(10)
Female Champs
Ricardo Bravo vs Kenan Bayramov OL50 (28)