จุดเปลี่ยนชีวิต “ทาเครุ เซกาวา” จากหมดอนาคตทางการเรียน สู่ซุปตาร์คิกบ็อกซิ่งแดนปลาดิบ
![Takeru Segawa](https://cdn.onefc.com/wp-content/uploads/sites/5/2024/01/Takeru-Segawa.jpg)
ทำความรู้จัก “ทาเครุ เซกาวา” ผ่านเรื่องราวชีวิตสุดวิบากที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ก่อนเปิดตัวครั้งแรกกับ ONE ในฐานะผู้ท้าชิงบัลลังก์ “ซุปเปอร์เล็ก”
“ทาเครุ เซกาวา” ซูเปอร์สตาร์คิกบ็อกซิ่ง วัย 32 ปี จากญี่ปุ่น เตรียมประเดิมผลงานครั้งแรกใน ONE ด้วยการท้าชิงบัลลังก์จาก “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) วัย 28 ปี ขวัญใจชาวไทย ในศึกใหญ่ ONE 165: ซุปเปอร์เล็ก vs ทาเครุ ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 ม.ค.นี้ ณ อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
![240128 TYO ONE165 SuperlekVsTakeru TH](https://cdn.onefc.com/wp-content/uploads/sites/5/2024/01/240128-TYO-ONE165-SuperlekVsTakeru-TH-1.jpg)
“ทาเครุ” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในคิกบ็อกซิ่งที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ การันตีได้จากความสำเร็จบนสังเวียนที่คว้าเข็มขัดมาครองได้เป็นกอบเป็นกำ โดยชื่อของเขากลายเป็นที่สนใจของแฟนกีฬาต่อสู้ทั่วโลกอีกครั้ง หลังได้โอกาสท้าชิงบัลลังก์จาก “ซุปเปอร์เล็ก” วันนี้เราจะพาไปย้อนดูเรื่องราวเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของไอคอนแห่งวงการคิกบ็อกซิ่งแดนซามูไรที่หลายคนรู้แล้วอาจจะต้องทึ่ง
#เด็กหนุ่มผู้เติบโตมากับธรรมชาติ
สำหรับ “ทาเครุ” เกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.34 ในเมืองยานาโกะ เมืองที่เต็มไปด้วยแหล่งธรรมชาติทั้งภูเขาและทะเลสาป โดยเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวจากพี่น้องทั้งหมด 3 คน ชีวิตในวัยเด็กของ “ทาเครุ” ถูกเลี้ยงมาอย่างสุขสบาย เขามักจะใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติในละแวกบ้านของเขา
“ผมมีพี่สาวและน้องสาวอย่างละคนครับ ผมสนิทกับพี่น้องทั้งสองคนมาตั้งแต่เด็ก ตอนเด็ก ๆ ผมซนเป็นลิง ชอบออกไปเล่นตามภูเขา แม่น้ำ และทะเลที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติครับ”
#คาราเต้ คือจุดเริ่มต้น
ศิลปะการต่อสู้ถือเป็นกีฬาที่ชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือพ่อของ “ทาเครุ” ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของกีฬามวยปล้ำ จึงทำให้ในทุก ๆ วัน เขาและพ่อมักจะเฝ้ารอชมการแข่งขันอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งทำให้ “ทาเครุ”ซึมซับความหลงใหลในกีฬาการต่อสู้ตั้งแต่นั้นมา
ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 รายการ K-1 ในญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีเหล่านักกีฬาคิกบ็อกซิ่งชั้นนำจากทั่วโลกมาปรากฏตัว และมีหลายคนเป็นนักกีฬาคาราเต้ฝีมือขั้นเทพที่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ในรายการนี้ จากจุดนี้เอง “ทาเครุ” จึงเริ่มก่อร่างสร้างฝันที่จะเป็นแชมป์คิกบ็อกซิ่ง K-1 โดยตัดสินใจเริ่มเรียนวิชาคาราเต้ ด้วยความหวังว่าเขาจะได้โอกาสขึ้นไปเฉิดฉายบนเวทีชื่อดังของประเทศ
“ตอนเด็ก ๆ ผมฝันมาตลอดว่าจะเป็นแชมป์คิกบ็อกซิ่ง ผมดูรายการ K-1 ทางทีวี และผมเห็นนักคาราเต้หลายคนซึ่งผมก็ชื่นชมพวกเขา และผมคิดว่าถ้าผมเล่นคาราเต้ บางทีอาจจะทำให้ผมได้เข้าไปสู่ K-1 ผมจึงเริ่มเรียนคาราเต้ตั้งแต่อยู่ชั้น ป.2 ครับ”
#หมดอนาคตทางการเรียน
แม้ “ทาเครุ” จะรู้สึกสนุกกับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังมองไม่เห็นหนทางว่าศิลปะการต่อสู้จะกลายเป็นสิ่งที่หาเลี้ยงชีพได้อย่างไร เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อในชั้นมัธยมปลายเพื่อค้นหาเส้นทางอนาคตของตัวเอง แต่โชคชะตากลับไม่เป็นใจ เขาเลือกคบเพื่อนผิดจนชีวิตเปลี่ยนถึงขั้นโดนไล่ออกจากโรงเรียน และเมื่อเป้าหมายด้านการศึกษาของเขามีอันต้องดับวูบลง “ทาเครุ” จึงตัดสินใจทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับศิลปะการต่อสู้อย่างเต็มกำลัง
“ผมโดนไล่ออกหลังจากเข้าเรียนได้เพียงแค่ 3 เดือนครับ นั่นทำให้ผมรู้สึกไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากต้องประสบความสำเร็จในศิลปะการต่อสู้เท่านั้น จนวันหนึ่งผมได้ค้นพบยิมคิกบ็อกซิ่งและฝึกซ้อมที่นั่นเป็นครั้งแรก ผมรู้ได้ทันทีว่านี่คือสิ่งที่ผมอยากทำมานานแล้ว ผมจำได้ว่าผมมีความสุขมากเรียกได้ว่าศิลปะการต่อสู้ช่วยให้ผมกลับมาอยู่ในทางที่ถูกที่ควรอีกครั้งครับ”
#เรียนรู้วิถีนักสู้ไทย
หลังจากค้นพบเส้นทางชีวิตใหม่ “ทาเครุ” ก็กลายเป็นนักกีฬาการต่อสู้ที่เจนจัดในศาสตร์หลายแขนงทั้งคาราเต้ คิกบ็อกซิ่ง มวยไทย และมวยสากล อย่างไรก็ตาม เขายังต้องการที่จะยกระดับฝีมือขึ้นไปอีกขั้น จึงตัดสินใจบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาฝึกซ้อมที่ประเทศไทย สถานที่ที่เต็มไปด้วยเหล่ายอดฝีมือระดับโลกมากมาย ซึ่งการมาเมืองไทยของ “ทาเครุ” นอกจากจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตนักสู้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ยังทำให้ทัศนคติในเส้นทางอาชีพเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“ตอนผมอยู่ที่ญี่ปุ่น ผมฝึกศิลปะการต่อสู้เพราะความชอบ มันจึงเป็นเหมือนงานอดิเรกสำหรับผม แต่หลังจากที่ผมมาอยู่เมืองไทย ผมพบว่าเพื่อนในยิมที่รุ่นราวคราวเดียวกับผมทุกคนต่างก็ชกมวยเพื่อหาเลี้ยงชีพกันทั้งนั้น พวกเขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือครอบครัว และนั่นทำให้ทัศนคติของผมที่มีต่อการต่อสู้เปลี่ยนไป”
“ความเข้มแข็งของคนที่พยายามดิ้นรนเลี้ยงชีวิตนั้นน่าทึ่งสำหรับผม ผมประทับใจมาก และผมคิดว่าผมจะต้องมีแรงผลักดันแบบนี้ด้วยเหมือนกัน นั่นทำให้ผมหันมาโฟกัสกับศิลปะการต่อสู้มากขึ้นครับ”
#มุ่งสู่จุดสูงสุดของอาชีพนักสู้
หลังจากประสบความสำเร็จในระดับสมัครเล่น “ทาเครุ” ก็ก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับอาชีพ โดยเขาเริ่มไต่เต้าจากเวทีระดับภูมิภาค กระทั่งในปี 2557 เขาก็บรรลุความฝันได้เป็นนักคิกบ็อกซิ่งของ K-1 สมใจ ซึ่งเขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ตัวฉกาจได้หลายรายจนคว้าเข็มขัดแชมป์มาครองได้ถึงสามรุ่น พร้อมทั้งรักษาบัลลังก์โดยไม่เสียตำแหน่งให้กับใครยาวนานถึง 7 ปี
เมื่อไม่เหลือคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อ “ทาเครุ” จึงเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ท้าทายกว่านั่นคือการก้าวเข้าสู่ชายคาองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ONE ที่เต็มไปด้วยยอดฝีมือระดับพระกาฬจากกีฬาหลายแขนง
“ONE เป็นองค์กรที่มีนักสู้จากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกัน เนื่องจากที่นี่เต็มไปด้วยยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทุกราย ผมจึงอยากทดสอบฝีมือตัวเองในองค์กรนี้ และผมดีใจมากที่ได้รับสัญญาครับ”
“แน่นอนว่าการเป็นแชมป์โลกใน ONE คือสิ่งที่ผมตั้งเป้าไว้ ผมอยากชนะและจะมอบชัยชนะนั้นให้แฟน ๆ ทุกคนที่สนับสนุนผมตลอดหลายปีที่ผ่านมาครับ”
สำหรับประเทศไทย ศึก ONE 165: ซุปเปอร์เล็ก vs ทาเครุ จะถ่ายทอดสดในรูปแบบเพย์-เพอร์-วิว (PPV หรือจ่ายเงินเพื่อรับชม) ซึ่งแฟนกีฬาสามารถซื้อ PPV Card ล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ได้ที่ลิงก์นี้>> https://visit.onefc.com/165GlobalPPV ราคาเพียง 99 บาท (เฉพาะผู้ชมในประเทศไทยเท่านั้น) และซื้อบัตรเข้าชมในสนามล่วงหน้าผ่านทาง Rakuten Ticket
ดูวิธีการซื้อ PPV เพื่อรับชมการถ่ายทอดสดศึก ONE 165: ซุปเปอร์เล็ก vs ทาเครุ ได้ที่นี่