รู้จัก “หยู เหยา ปุย” สาวขาลุย ผู้ไม่รู้จักคำว่าถอย สู่การพิชิตสัญญานักกีฬา ONE รายที่ 9

ทำความรู้จัก “หยู เหยา ปุย” นักสู้สาวจอมบู๊ ชาวฮ่องกง ผู้สร้างประวัติศาสตร์ พิชิตใจบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” จนกลายเป็นนักกีฬาฮ่องกงหญิงคนแรกที่คว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครอง

สร้างชื่อดังไกลไปทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ “หยู เหยา ปุย” นักสู้สาวขาลุยวัย 30 ปี จากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง หลังระเบิดฟอร์มกวาดชัย 5 ไฟต์ติดต่อกัน จนสามารถพิชิตใจบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” คว้าสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.7 ล้านบาท) มาครองเป็นคนที่ 9 ของรายการได้สำเร็จ ในศึก ONE ลุมพินี 42 เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา

เพื่อให้ทุกคนรู้จัก “เหยา ปุย” ให้มากขึ้น วันนี้เราจะขออาสาพาย้อนกลับไปดูเส้นทางสู่การเป็นนักมวยไทย ของเธอตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ตัดสินใจเรียนมวยไทย เพียงเพราะอยากดูแลรักษารูปร่าง จนมาถึงวันนี้ที่เธอสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นนักกีฬาระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

#เริ่มเรียนมวยไทย เพียงเพราะอยากออกกำลังกาย

“หยู เหยา ปุย” เกิดที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 1 มี.ค.66 โดยชีวิตในวัยเด็กของ “เหยา ปุย” ต้องเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความกดดันจากพ่อแม่และสังคมรอบข้าง ที่ต้องการให้ลูกเรียนหนังสือให้จบสูง ๆ เพื่อที่จะสามารถหาเงินให้ได้เยอะๆ เธอจึงรู้สึกท้อแท้กับชีวิต และลาออกจากโรงเรียนระหว่างชั้นมัธยม 

หลังลาออกมาได้ไม่นาน “เหยา ปุย” ในวัย 18 ปี ได้เริ่มต้นฝึกเรียนมวยไทย เพื่อดูแลรักษารูปร่างให้ดีตามแบบฉบับสาวรักสวยรักงามทั่วไป ก่อนจะค้นพบว่ากีฬามวยไทย คือสิ่งที่เธอรัก นำมาซึ่งการตัดสินใจเริ่มฝึกซ้อมอย่างจริงจัง และลงแข่งขันมวยไทยในระดับอาชีพครั้งแรกตอนอายุ 22 ปี

#ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ 3 รายการ

1 ปีหลังเทิร์นโปรสู่การเป็นนักมวยไทยอาชีพ “เหยา ปุย” ประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์มวยไทย WKBC I-1 ที่จัดขึ้นในฮ่องกง และด้วยความสำเร็จในครั้งนั้น ทำให้เธอตัดสินใจตั้งเป้าหมายว่าจะพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็นว่าการเป็นนักกีฬามวยไทย ก็สามารถหาเลี้ยงชีพประสบความสำเร็จได้

โดยหลังจากนั้น “เหยา ปุย” ฝีมือรุดหน้า จนก้าวไปคว้าแชมป์มาครองเพิ่มอีก 2 รายการ ได้แก่แชมป์มวยไทยหญิง ของเกาะฮ่องกง รุ่น 54 กก. มาครอง ในปีถัดมา ตามด้วยการคว้าแชมป์ WBC อินเตอร์เนชันแนล รุ่น 53.5 กก. ในปี 2562

#ONE คือความฝัน

“เหยา ปุย” ต้องหยุดพักจากการชกมวยไทย ไปนานถึง 3 ปี ในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาด ซึ่งในช่วงที่กำลังเริ่มท้อแท้ เธอมีโอกาสได้ดูการแข่งขันมวยไทยใน ONE และรู้สึกทึ่งในความสามารถของนักมวยไทยที่ร่วมแข่งขันในรายการ กลายเป็นการเติมเชื้อไฟให้เธอกลับมาฮึดสู้ พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะเข้ามาชกใน ONE ให้ได้ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ดังไกลไปทั่วโลก

#เจ้าของฉายา “เสกสรรในร่างหญิง”

ด้วยดีกรีความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้ “เหยา ปุย” ได้รับโอกาสเข้ามาไล่ล่าความฝันของตัวเอง ในศึก ONE ลุมพินี โดยเธอเปิดตัวครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี 3 เอาชนะน็อก “เดอะสตาร์ ศิษย์ ช.” ไปได้ในยกที่สอง ตามด้วยชนะทีเคโอ “เดวีนา มาร์ติน” ยกที่สาม ในเดือนต่อมา พร้อมโกยโบนัส 3.5 แสนบาท จาก “บิ๊กบอสชาตรี” เข้ากระเป๋าได้ทั้ง 2 ไฟต์ ก่อนจะหักด่านหินชนะคะแนน “มารี รูเมต” และ “เซเลสต์ ฮันเซน” ได้ในอีก 2 ไฟต์ต่อมา

ผลจากการที่ “เหยา ปุย” โชว์ฟอร์มเดินหน้าบุกโจมตีคู่ต่อสู้ทุกวินาที จนถึงกับต้องทำนบแตกแพ้พ่ายไปทุกราย ทำให้แฟนมวยชาวไทย มองว่าเธอมีสไตล์การชกละม้ายคล้ายคลึงกับ “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง ที่ชอบเดินหน้าไล่ถล่มคู่ชกแบบไม่มีหยุดเช่นเดียวกัน จนนำมาซึ่งการตั้งฉายาให้เธอว่า “เสกสรรในร่างหญิง”

#นักกีฬาฮ่องกงหญิงคนแรกที่คว้าสัญญา ONE

กระทั่งในค่ำคืนวันศุกร์ที่ 24 พ.ย.66 ในศึก ONE ลุมพินี 42 ที่ผ่านมา หลังเธอสามารถเก็บชัยไฟต์ที่ห้าติดต่อกัน ด้วยการเอาชนะทีเคโอ “เซรา โดอาน” ในยกที่สอง ทำให้  “บิ๊กบอสชาตรี” ไม่รอช้า นอกจากจะมอบโบนัสให้เป็นครั้งที่สามแล้ว ยังมอบของรางวัลที่เธอใฝ่ฝัน อย่างสัญญานักกีฬา ONE ส่งเธอกลายเป็นนักกีฬาจาก ONE ลุมพินี รายที่ 9 ที่ได้ก้าวเท้าขึ้นสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกต่อไป

นอกจากนั้นสัญญาฉบับนี้ ยังทำให้ “เหยา ปุย” ขึ้นแท่นกลายเป็นนักกีฬาฮ่องกงหญิงคนแรกที่สามารถคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครอง ได้อย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย

โดยหลังจากนี้ “เหยา ปุย” จะเปิดตัวไฟต์แรกในฐานะนักกีฬา ONE เมื่อไหร่ และจะพบเจอกับใคร แฟน ๆ สามารถติดตามอัปเดตโปรแกรมการแข่งขันของ “เหยา ปุย” ได้ที่นี่ และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และ อินสตาแกรม ONEChampTh