เปลือยชีวิตติดลบ “เปโตรเซียน” กว่าจะมาเป็นคิกบ็อกเซอร์เก่งกาจที่สุดตลอดกาล
![Giorgio Petrosyan at his gym in Milan, Italy](https://cdn.onefc.com/wp-content/uploads/sites/5/2020/03/maxresdefault-2025.jpg)
หากเอ่ยถึงคิกบ็อกเซอร์ชาวอิตาลี “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” เชื่อว่าแฟนหมัดมวยชาวไทยคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี จากการที่เขาผ่านนักมวยไทยมาหลายคน รวมถึงซูเปอร์สตาร์แห่งวงการมวยอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” ตั้งแต่สมัยที่ยังใช้ ป.ประมุข เดิม
การผ่านร้อนผ่านหนาวบนเส้นทางนักสู้กว่าร้อยไฟต์ของ เปโตรเซียน โดยคว้าชัยชนะมาได้ถึง 95% ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักชกที่เก่งกาจที่สุดตลอดกาล มีคู่แข่งที่กำราบเขาได้เพียงไม่กี่คน
![Giorgio Petrosyan Davit Kiria FISTS OF FURY 1920X1280 49](https://cdn.onefc.com/wp-content/uploads/sites/5/2021/02/Giorgio-Petrosyan-Davit-Kiria-FISTS-OF-FURY-1920X1280-49-1200x800.jpg)
กว่าจะเดินทางมาถึงจุดสูงสุด เปโตรเซียน ผ่านความยากลำบากโดยเริ่มจากต้นทุนชีวิตติดลบ หนีสงครามในประเทศบ้านเกิด ต้องนอนข้างถนน จนแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า เขาจะมีวันนี้ได้
#หนีสงคราม นอนข้างถนน
เปโตรเซียน เกิดที่ประเทศอาร์เมเนีย เมื่อ 10 ธันวาคม 2528 แต่ด้วยปัญหาสงครามภายในประเทศ ทำให้ครอบครัวของเขาต้องอพยพหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอด โดยไปอาศัยอยู่ประเทศอิตาลีในฐานะผู้ลี้ภัย เมื่อปี 2542 ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุ 13 ปี
การไปอยู่ที่อิตาลีแบบผู้อพยพ เปรียบเสมือนชีวิตติดลบ ไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องซุกหัวนอนตามสถานีรถไฟบ้าง ข้างถนนบ้าง ช่วงเวลานั้นเขาจินตนาการไม่ออกเลยว่า อนาคตจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิตหรือเปล่า
โชคดีที่ยังมีองค์กรการกุศลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้เขาและครอบครัวมีงานทำ ค่อย ๆ สร้างหลักปักฐาน และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามสมควร
#ฝันอยากเป็นฮีโร
หนุ่มน้อย เปโตรเซียน เป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์การต่อสู้ มีไอดอลคือ “บรูซ ลี” และ “ฌอง-คล็อด แวนแดมม์” เขาต้องการเก่งเหมือนฮีโร่ยอดนักสู้ เขาสนใจเรียนคิกบ็อกซิ่ง แต่การหายิมในเมืองกอริเซียซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ในอิตาลี ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ตอนสมัยที่ผมอาศัยอยู่บ้านพักของศูนย์บรรเทาทุกข์ พ่อบอกผมว่า ระหว่างนี้เราต้องฝึกกันเองไปก่อน และพ่อจะพยายามหายิมให้ พวกเราพันหมอนไว้กับเสาบาสเก็ตบอล ใช้ซ้อมเตะซ้อมต่อยเป็นประจำ จนกระทั่งพ่อหาที่เรียนได้ โดยเริ่มแรกผมเรียนมวยไทยเมื่อสมัยอายุ 14 ปี”
#ฉายา “The Doctor”
หลังจากเรียนมวยไทยได้ราว 2 ปี เปโตรเซียน ก้าวขึ้นสังเวียนครั้งแรกตอนอายุ 16 ปี และเริ่มตระเวนเดินสายชกมวยไทยเป็นอาชีพควบคู่ไปกับการเป็นคนงานก่ออิฐสร้างบ้าน
ในปี 2547 เปโตรเซียน ได้ขึ้นชกกับนักมวยชาวฝรั่งเศส และน็อกคู่ต่อสู้ตั้งแต่ยกแรกด้วยการเตะตัดขา 4 ครั้ง กรรมการคนหนึ่งพิจารณาดูภาพถ่ายก็พบว่า การเตะทั้ง 4 ครั้งแม้มันจะดูเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วมันไม่เหมือนกันเลย
![Giorgio Petrosyan La presentazione di Petrosyan.jpg](https://cdn.onefc.com/wp-content/uploads/sites/5/2018/04/Giorgio-Petrosyan-La-presentazione-di-Petrosyan.jpg)
“ตั้งแต่การชกครั้งนั้นเป็นต้นมา ผมก็ได้รับฉายาว่า ‘The Surgeon (ศัลยแพทย์)’ เพราะมันเหมือนเป็นการเตะเพียงครั้งเดียว แต่ที่จริงแล้ว มันเป็นการเตะ 4 ครั้ง แต่ย้ำลงไปที่จุดเดิม ระยะเดิม และเทคนิคเดิม”
“และจากฉายา The Surgeon ก็กลายมาเป็น “The Doctor (คุณหมอ)” เพื่อต้องการสื่อว่า ผมมีความแม่นยำและเฉียบขาดในการออกอาวุธ ซึ่งผมใช้ฉายานี้มาตลอดจนปัจจุบัน”
ความแม่นยำในการออกอาวุธเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักสู้ เพราะมันไม่มีคำว่า “ฟลุก” บนสังเวียน เช่นเดียวกับหมอที่ต้องรักษาคนไข้ หมอจึงมีความเชี่ยวชาญในเครื่องไม้เครื่องมือ และสามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที การชกบนเวทีก็เหมือนกัน
#จากมวยไทยสู่คิกบ็อกซิ่ง
หลังจากตระเวนสร้างชื่อและคว้าชัยชนะในการแข่งขันมวยไทยในเวทีต่าง ๆ ทั่วยุโรป เปโตรเซียน ตัดสินใจหันมาชกคิกบ็อกซิ่งที่ตนเองชอบ และออกล่าฝันการเป็นนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งระดับโลก จนกระทั่งประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ K-1 World MAX, แชมป์ Glory Slam Tournament และอีกมากมาย
เปโตรเซียน เป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ในวงการคิกบ็อกซิ่งระดับโลกด้วยฟอร์มการชกอันยอดเยี่ยมโดยสร้างสถิติอันน่าเหลือเชื่อ ด้วยชัยชนะกว่าร้อยไฟต์ โดยเป็นความพ่ายแพ้เพียง 2 ครั้งในชีวิต (เสมอ 2 ไม่มีผลการตัดสิน 2) จนทั่วโลกยกย่องให้เขาเป็นนักชกคิกบ็อกซิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
“ผมพยายามเปลี่ยนสไตล์การชกของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้จับทางได้ แต่ย้ำอีกครั้งว่า ถ้าเรามีความเร็วและทักษะการต่อสู้ที่ดี มันจะเป็นข้อได้เปรียบมาก ผมเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้ตอนที่ผมเริ่มชกมวยไทย และเมื่อผมได้ชก K-1 ผมก็ต้องเปลี่ยนสไตล์เป็นคิกบ็อกซิ่ง”
“ผมใส่เทคนิคการป้องกันตัวแบบมวยไทยเข้าไป บวกกับการปล่อยหมัดสไตล์คิกบ็อกซิ่ง ผมรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน และเหมือนแฟนๆ จะชื่นชอบและสนุกไปด้วย ผมเก่งในเรื่องการดวลหมัด แต่ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับว่า คู่แข่งที่ผมกำลังเผชิญหน้าเป็นใคร”
#ใต้ชายคา ONE
![every giorgio petrosyan win in one championship](https://cdn.onefc.com/wp-content/uploads/sites/5/2021/02/every-giorgio-petrosyan-win-in-one-championship-1200x675.jpg)
หลังกวาดแชมป์ระดับโลกมามากมาย เปโตรเซียน ตัดสินใจก้าวเข้าสู่ชายคา ONE เพื่อสานต่อความสำเร็จในระดับโลกในฐานะนักกีฬาชุด วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ (มวยไทย/คิกบ็อกซิ่ง) ในปี 2561
เขาเปิดตัวอย่างงดงามด้วยการเอาชนะ “โจ ณัฐวุฒิ” ตามด้วย “เซราะกราว เพชรยินดีอะคาเดมี” ก่อนเข้าสู่การแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต และทะลวงด่านคู่แข่งอย่าง “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” และภาคสองกับ “โจ ณัฐวุฒิ” ที่คราวนี้เขาเอาถึงน็อก ก่อนจะไปถึงรอบสุดท้ายกับนักมวยฝรั่งเศส “เซมี ซานา” และคว้าเข็มขัดแชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ โกยเงินรางวัลกว่า 31 ล้านบาท
![Giorgio Petrosyan Superbon](https://cdn.onefc.com/wp-content/uploads/sites/5/2021/09/Giorgio-Petrosyan-Superbon-1200X800.jpg)
เปโตรเซียน กำลังจะได้โอกาสยกระดับความสำเร็จอีกครั้ง เมื่อได้เปิดศึกชิงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดที่นักกีฬาในรุ่นนี้ต่างหมายปอง
โดยจะลงฟาดปากกับ “ซุปเปอร์บอน” คิกบ็อกเซอร์ตัวท็อปของไทยในศึก ONE: FIRST STRIKE ที่จะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2564
หากเขาสามารถคว้าชัยในศึกครั้งนี้ ก็เท่ากับว่าเขาจะสร้างประวัติศาสตร์การควบแชมป์โลกสองเข็มขัดของ ONE และตอกย้ำว่าเขาคือนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลตัวจริง
อ่านเพิ่มเติม: