เปิดชีวิต “ซาวาส ไมเคิล” นักมวยไซปรัสที่ถูกเหยียบย่ำความฝัน ตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น
นักมวยชาวไซปรัส “The Baby Face Killer” ซาวาส ไมเคิล คือหนึ่งในตัวท็อปของวงการมวยไทย หลังเปิดตัวบนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ด้วยการคว้าชัยชนะอย่างสวยงามเหนือเจ้าตำนาน “สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล” เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
แม้ต้องพบกับอุปสรรคมากมาย เพราะกีฬามวยไทยไม่เป็นที่นิยมในบ้านเกิด ทั้งยังถูกเย้ยหยันว่าความฝันที่จะเป็นแชมป์โลกคือเรื่องเพ้อเจ้อ แต่การทุ่มเทอย่างหนักทำให้เขาเอาชนะน้ำลายที่ไร้ราคา คว้าโอกาสในการเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตาใน วัน แชมเปียนชิพ
ก่อนที่เขาจะกลับขึ้นสู่สังเวียนอีกครั้ง เราจะพาย้อนดูความหลังกับเส้นทางนักสู้จากเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้เขาผ่านอะไรมาบ้าง
วัยเด็กที่ไซปรัส
ซาวาส เกิดที่เมืองลิมาสซอล ทางชายฝั่งตอนใต้ของประเทศไซปรัส แม่ของเขาเป็นชาวแคนาดาที่ย้ายมาสร้างชีวิตใหม่หลังแต่งงานกับสามีชาวท้องถิ่น โดยเขามีพี่สาวอีกหนึ่งคนชื่อ “คริสทีน”
“ชีวิตชาวเกาะมันแตกต่างจากโลกในเมืองทั่วไป ไซปรัสเป็นประเทศเล็กๆ มีประชากรราว 1 ล้านคน มันเงียบสงบดี คนที่นี่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย”
หลังพ่อกับแม่หย่าร้างกัน ซาวาส อยู่ในความดูแลของแม่เป็นส่วนใหญ่ แต่พ่อซึ่งเป็นอดีตแชมป์คาราเต้ยังอยู่ใกล้ๆ เขาแนะนำให้ ซาวาส รู้จักศิลปะการต่อสู้หลังมีปัญหาถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน
“โรงเรียนที่ผมเคยศึกษาจะมีเด็กแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่มกรีก กับอังกฤษ ผมอยู่ในกลุ่มหลัง เรามักจะโดนเด็กกลุ่มกรีกเล่นงานอยู่เป็นประจำ พวกนั้นแข็งแรงกว่าเรา ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้น รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ และป้องกันตัวเองกับเพื่อนๆ ไม่ได้”
“พ่อผมเลยพาไปเรียนคาราเต้ แต่ผมไม่ชอบ จนได้มาเรียนมวยไทย มันใช่เลย”
ความรักในมวยไทย
ซาวาส เริ่มฝึกมวยไทยที่ ลุมพินี ยิม ลิมาสซอล เมื่อวัยเพียง 6 ขวบ โค้ชมองเห็นพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา หลังจากเขาออกหมัดแย็บในชั่วโมงแรกของการเรียน ไม่กี่เดือนหลังจากนั้นเขาก็ได้ขึ้นสังเวียนอย่างไม่คาดฝัน
“จริงๆ ไม่ใช่คิวผม แต่มีคนบาดเจ็บกะทันหัน โค้ชโทรหาแม่ ขอตัวผมมาชกในนาทีสุดท้าย ตอนนั้นจำได้ว่าผมกลัวแทบแย่ แต่ไฟต์นั้นผมฟันศอกใส่อีกฝ่ายจนชนะน็อก และทำให้ผมติดใจตั้งแต่นั้น”
เขาแทบจะไม่เป็นอันทำอะไร รอให้หมดคาบเรียนไวๆ เพื่อที่จะได้ไปซ้อมมวย โชคดีที่แม่สนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ เธอเห็นถึงความรักที่ลูกชายมีต่อ “ศาสตร์แห่งอาวุธทั้งแปด” และต้องการให้เขาไปถึงฝั่งฝัน
“ผมบินไปดูการชกชิงแชมป์โลกที่ประเทศไทยตอนอายุ 11 ขวบ แม่ได้เห็นตั้งแต่นั้นว่าผมรักกีฬานี้ขนาดไหน ผมไปสนามมวยเวทีลุมพินีและหลงรักในบรรยากาศที่นั่น ทุกวันนี้แม่ผมยังแซวตลอดว่า ลูกทิ้งหัวใจไว้ที่ประเทศไทย”
“เธอบอกกับผมว่า ถ้าไม่ชอบชีวิตที่โรงเรียน ก็ไปเป็นนักมวยไทยอาชีพ แต่ถ้าลูกครึ่งๆ กลางๆ ก็อยู่ทำการบ้านไป แม่เชื่อใจและสนับสนุนผมเสมอ”
แม่เก็บออมเงินเดือนที่ได้จากการทำงานเป็นครูในสถานรับเลี้ยงเด็ก เป็นทุนให้ลูกชายได้ไป “สยามเมืองยิ้ม” ขณะที่เขาก็เก็บเงินค่าขนม ทุกคนในครอบครัวช่วยเหลือเต็มที่และมุ่งหน้าสู่ทิศทางเดียวกัน
ก้าวต่อไป
ซาวาส ทำทุกอย่างเพื่อสานฝันการเป็นนักมวยอาชีพให้เป็นจริง แต่ทัศนคติของคนในชุมชนแถวบ้านดูจะไม่เป็นใจเท่าไหร่
“ไม่มีใครในไซปรัสนอกจากครอบครัว ที่เชื่อในตัวผม พวกเขาบอกว่ามันจะเสียเวลาเปล่า”
“ค่ายเพชรยินดีอะคาเดมีออกทุนให้ผมย้ายมาอยู่ไทย แต่แทนที่คนแถวบ้านจะสนับสนุน พวกเขาบอกว่าผมไม่มีทางทำสำเร็จหรอก”
ที่สุดแล้ว ซาวาส ก็ได้มาอยู่ที่ประเทศไทยสมใจเมื่อวัย 18 ปี แต่ชีวิตในช่วงแรกยากกว่าที่คิดไว้ และเสียงหลอนจากคนที่สงสัยในตัวเขาก็ตามมา
การเงินเป็นปัญหาหนัก แต่แม่และสปอนเซอร์ใจดีก็ช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ บวกกับการทุ่มเทฝึกซ้อม ที่สุดเขาก็เริ่มสร้างชื่อบนสังเวียน
“ตอนแรกผมแทบสติแตก มันเป็นฝันร้ายชัดๆ การซ้อมนั้นโหดมาก และเงินที่ได้จากการชกก็ยังไม่มากเท่าไหร่”
“ตอนนั้นผมเริ่มที่จะเชื่อว่าที่คนอื่นเขาพูดกันมันคือความจริง สถานการณ์เริ่มแย่ ไม่มีใครในไซปรัสเคยทำแบบผมมาก่อน เลยไม่มีใครให้ตามรอย แต่ผมเลือกที่จะเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง”
“สำหรับตอนนี้ ผมรักชีวิตที่ผมเป็น เส้นทางมันอาจจะยากหน่อย แต่หากค้นพบทางไป มันก็ไปต่อได้เอง”
สร้างชื่อในศึกใหญ่
Muay Thai phenom Savvas Michael-ไมเคิล เพชรยินดี อคาเดมี่ outduels Singtongnoi in his ONE Super Series debut to claim an impressive unanimous decision victory!Watch the full event on the ONE Super App 👉 http://bit.ly/ONESuperApp | TV: Check local listings for global broadcast
Posted by ONE Championship on Friday, May 10, 2019
ความสำเร็จของ ซาวาส ในสนามมวยเวทีมวยลุมพินีและราชดำเนิน ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักมวยต่างชาติตัวท็อปบนสังเวียนของประเทศไทย
จิตใจที่มุ่งมั่น และการฝึกซ้อมจากทีมงานระดับโลกของเพชรยินดีอะคาเดมี ทำให้เขาพัฒนาอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับผลงานในสนาม
“ชีวิตผมเริ่มที่จะง่ายขึ้น ชื่อของผมเริ่มเป็นที่รู้จัก และผมก็เริ่มศึกษาธุรกิจมวยควบคู่ไปด้วย”
“สมัยยังเด็ก ผมฝันที่จะได้ชกกับนักมวยไทยระดับแถวหน้าอยู่เสมอ ผมอยากทำให้แม่และพี่สาวมีชีวิตที่สบายขึ้น พวกเขาให้ผมทุกอย่าง ผมอยากที่จะตอบแทนบ้าง”
ผลงานของเขาไปเตะตา วัน แชมเปียนชิพ ก่อนที่จะสร้างชื่อได้ตั้งแต่ไฟต์แรก เมื่อสามารถชนะหนึ่งในไอคอนของวงการอย่าง “สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล” แบบขาดลอย
“ผมบอกกับแม่เสมอว่า จะนำเงินจากการชกมวยไทยให้ได้ ผมเชื่อว่าสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นและ วัน แชมเปียนชิพ ก็เข้ามา สิ่งที่ผมบอกกับทุกคนมาตลอดกลายเป็นจริงแล้วครับ”
