เปิด 10 เรื่องเด็ด “แสตมป์” ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้!
วินาทีนี้ต้องยอมรับว่า “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” กำลังมาแรงและเป็นที่จับตามองจากบรรดาแฟนกีฬาทั้งไทยและเทศในฐานะตัวแทนนักกีฬาหญิงไทยคนแรกที่ได้ลงแข่งขันในศึกหญิงแกร่งครั้งประวัติศาสตร์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวต โดยกำลังโชว์ฝีมือในรอบชิงชนะเลิศเพื่อชิงเข็มขัดแชมป์สีเงินอันทรงค่า กับคู่แข่งสายแข็งจากอินเดีย “ริตู โฟกาต” ในศึก ONE: WINTER WARRIORS ซึ่งจะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม 2564
หลายท่านอาจรู้เรื่องราวเกี่ยวกับสาวแกร่งวัย 24 ปี จากจังหวัดระยองคนนี้ในหลายแง่มุมแล้ว แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ใน 10 เรื่องเด็ดต่อไปนี้
#1 นักสู้วัยอนุบาล
แสตมป์ ผูกพันกับมวยไทยตั้งแต่เด็ก โดยมีพ่อเป็นอดีตนักมวยชื่อ “วิสันต์เล็ก ลูกบางปลาสร้อย” ผู้เป็นครูมวยคนแรกให้เธอ ตั้งแต่วัยเพียง 5 ขวบ ด้วยแรงกดดันจากการถูกกลั่นแกล้งภายในโรงเรียนสมัยอยู่ชั้นอนุบาล 3 เป็นจุดเริ่มต้นให้แสตมป์สนใจฝึกมวยไทยตามรอยพ่อและพี่ชายลูกพี่ลูกน้อง เพื่อใช้ป้องกันตัว
#2 ฉายานักมวยปากแดง
แสตมป์ ได้รับฉายาว่า “นักมวยปากแดง” ตามที่เธอเขียนไว้บนหน้าโปรไฟล์เฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งมีที่มาจากสมัยเด็ก ๆ คุณแม่มักทาลิปสติกสีแดงให้เธอก่อนขึ้นชกทุกไฟต์ จนกลายเป็นความเคยชินถึงทุกวันนี้ เธอบอกว่า “ปากไม่แดง ไม่มีแรงชก”
#3 ครอบครัวมวยไทย
ครอบครัวของแสตมป์เป็นครอบครัวที่มีพื้นฐานมวยไทย ทั้งลุง พ่อ พี่ชายลูกพี่ลูกน้อง รวมถึงน้องชายของเธอ “โชกุน” ที่กำลังเจริญรอยตามพี่สาวในวันนี้
#4 เกือบเลิกมวยไปเป็นครู
จากที่เคยตั้งใจจะยึดอาชีพนักมวยเป็นงานหลัก เธอต้องกลับมาอยู่ในโลกของความจริงว่านักมวยหญิงไม่ได้รับความนิยมและสังคมยังไม่ค่อยให้การยอมรับ จึงเริ่มคิดที่จะมีอาชีพเหมือนอย่างผู้หญิงทั่วไป โดยตั้งใจจะเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ และหากมีเวลาว่างก็จะชกมวยเป็นอาชีพเสริม
#5 ลุคหล่อสาวหลง
สมัยวัยรุ่นแสตมป์เคยตัดผมสั้นมาก จนเคยมีสาว ๆ เข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้ชาย และแอดเฟซบุ๊กมาขอจีบเลยทีเดียว ดูไปดูมาแล้วสาว ๆ ก็สมควรเข้าใจผิดเพราะลุคนี้หล่อจริง!
#6 ใส่สีเสื้อแฟร์เท็กซ์
เดิมทีแสตมป์ได้รับการชักชวนให้ใช้สีเสื้อค่ายใหญ่อย่าง แฟร์เท็กซ์ พัทยา ในฐานะนักกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ไม่ใช่นักมวยหญิงเพียงอย่างเดียว ดังนั้น เธอจึงต้องฝึกซ้อมทั้งวิชามวยไทย มวยปล้ำ และ บราซิลเลียน ยิวยิตสู กระทั่งจู่ ๆ ก็ได้รับโอกาสจากทาง วัน แชมเปียนชิพ ให้ลงสังเวียนคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย ซึ่งเธอก็คว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ จากนั้น เธอจึงกลับมาพัฒนาฝีมือในสาย MMA อย่างจริงจังและมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงแชมป์โลกในเส้นทางนี้ให้ได้
#7 รอยสักเสริมมงคล
แสตมป์ มีรอยสักทางด้านหลัง คือ ยันต์เก้ายอด และ พระพิฆเนศ ตามความเชื่อที่พ่อแม่ส่งต่อมาให้ว่า “ยันต์เก้ายอด” มีอานุภาพครอบคลุมทุกด้าน ในขณะที่ “พระพิฆเนศ” เป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ เกี่ยวข้องกับวิชาสายศิลปะทุกแขนง โดยเธอใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจสำหรับการใช้ชีวิตและการต่อสู้บนสังเวียน
#8 ว่าที่เจ้าแม่สวนทุเรียน
ครอบครัวของ แสตมป์ ทั้งพ่อแม่ คุณตา ทำสวนทุเรียนเป็นธุรกิจครอบครัว แม้ แสตมป์ จะไม่ค่อยมีเวลามาดูแลสวนเพราะต้องซ้อมอยู่ค่ายมวย แต่ก็เป็นคนรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แทบทั้งหมด
ล่าสุด แสตมป์ ตัดสินใจทุบประปุกลงทุนขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนซึ่งคาดว่าจะได้เก็บเกี่ยวและได้กำไรคืนสมใจภายในอีก 4 ปีข้างหน้า หากถึงตอนนั้นคงต้องเรียกเธอว่า “เจ้าแม่สวนทุเรียน”
#9 สเปกหนุ่มในฝัน
หลังจากผ่านเรื่องรักที่ทำให้ แสตมป์ อกหักจนเกือบเอาตัวไม่รอด เธอก็มีมุมมองเรื่องความรักเปลี่ยนไป และแน่นอนว่าสเปกหนุ่มในฝันก็ต่างจากสมัยวัยละอ่อนอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยตั้งความหวังว่าต้องเจอ หนุ่มอารมณ์ดี ยิ้มหวาน มีรากฐานมั่นคง แสตมป์ บอกว่าตอนนี้ขอใครก็ได้ที่ไม่ทิ้งกันไปไหนในยามที่เธอต้องเผชิญกับความทุกข์และความล้มเหลวในชีวิต
#10 ไอดอลในดวงใจ
เธอมีไอดอลในดวงใจที่เป็นแบบอย่างในด้านศิลปะการต่อสู้ คือนักกีฬาหญิงชื่อดังชาวสิงคโปร์ “แองเจลา ลี” ราชินีรุ่นอะตอมเวตคนปัจจุบัน ซึ่ง แสตมป์ ติดตามผลงานของนักสู้สาวชาวสิงคโปร์มานานแล้ว และไม่แน่ในอีกไม่ช้าไม่นานนี้ แสตมป์ อาจต้องเผชิญหน้ากับไอดอลของเธอในฐานะคู่ต่อสู้ หากสามารถคว้าเข็มขัดแชมป์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิงได้สำเร็จ
อ่านเพิ่มเติม:
