แฝดพี่บ้านรูโทโล “เคด” ได้ฤกษ์ป้องเข็มขัดครั้งที่สองกับมือปราบแดนไวกิง “ทอมมี ลังกาเคอร์”
“เคด รูโทโล” แชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นไลต์เวต เตรียมบินลัดฟ้ามาไทยเพื่อป้องกันตำแหน่งครั้งที่สองต่อหน้าแฟนกีฬาสายรัดล็อกชาวไทยที่เวทีมวยลุมพินี
“เคด รูโทโล” แชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นไลต์เวต (155-170 ป.) ได้ฤกษ์กลับมาป้องกันตำแหน่งครั้งที่สองจาก “ทอมมี ลังกาเคอร์” จอมล็อกจากนอร์เวย์ ในฐานะคู่รองของศึก ONE FIGHT NIGHT 11: รีเกียน vs ดีมิทรี ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 10 มิ.ย.66
ศึกนี้เป็น 1 ใน 2 ไฟต์ของการชิงแชมป์โลกบนสังเวียนเวทีลุมพินี ซึ่งจะเป็นการป้องกันตำแหน่งครั้งที่สองของราชันนักล็อก รุ่นไลต์เวต “เคด” ที่เคยทำผลงานยอดเยี่ยมจนได้รับรางวัล “นักกีฬาปล้ำจับล็อกยอดเยี่ยมประจำปี 2565”
“เคด” ถือนักปล้ำจับล็อกคลื่นลูกใหม่ชาวอเมริกันฝีมือขั้นเทพ เป็นแฝดผู้พี่ของ “ไท รูโทโล” ซึ่งเข้าสู่ชายคา ONE พร้อมกันเมื่อปี 2565 โดย “เคด” นั้นเปิดตัวปังด้วยการเอาชนะจอมรัดระดับตำนานจากแดนซามูไร “ชินยะ อาโอกิ” มาได้อย่างสวยงาม
ด้วยวัยเพียง 19 ปี “เคด” สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นไลต์เวต (155-170 ป.) คนแรกของ ONE ได้สำเร็จด้วยการซับมิชชัน “ยัวลิ เคอรซ์เฮฟ” ด้วยท่าล็อกข้อเท้า (Heel Hook) ในเวลาเพียง 4 นาทีเศษจากการแข่งขันหนึ่งยก 10 นาที ในศึกชิงแชมป์โลกรุ่นนี้ที่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปีผ่านมา
และในศึก ONE FIGHT NIGHT 5 เมื่อเดือน ธ.ค.65 “เคด” ตอกย้ำความเป็นนักรัดเบอร์หนึ่ง ไล่ซับมิชชัน พร้อมโชว์เทคนิคชั้นยอดใส่ “มาเทอุส กาเบรียล” ป้องกันบัลลังก์ ปล้ำจับล็อก รุ่นไลต์เวต นั่งแท่นราชันต่อเป็นสมัยที่สอง
ทางด้านผู้ท้าชิงในครั้งนี้ “ทอมมี” จอมล็อกดีกรีนักกีฬาบราซิลเลียนยิวยิตสู (BJJ) สายดำจากแดนไวกิง วัย 29 ปี เป็นอีกคนที่โชว์ผลงานบนสังเวียน ONE ได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีสะดุด นับตั้งแต่ไฟต์เปิดตัว จนได้กลายเป็นผู้ท้าชิงเข็มขัดจาก “เคด” คนล่าสุด
นอกจากนี้ ในศึก ONE FIGHT NIGHT 7 เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา “ทอมมี” ได้มาวาดลวดลายสกิลล็อกหักข้อเท้า “ยัวลิ เคอรซ์เฮฟ” ในท่าฮีล ฮุก (Heel Hook) คว้าชัยในเวทีมวยลุมพินีมาแล้ว ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง หลังรับชัยชนะไปเมื่อ 4 เดือนก่อน
แฟน ๆ สามารถจองบัตรเข้าชมในสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ผ่านทาง THAI TICKET MAJOR และติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม ONEChampTh
