ไฟต์ชี้ชะตา! “เสมาเพชร” หลังพิงฝา ประกาศท้าชนหมัดเดือด “เอลบรุส” งานนี้แพ้ไม่ได้
“ซ้ายฟ้าผ่า” เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ จอมบู๊อาวุธหนัก วัย 31 ปี จากเชียงใหม่ ประกาศเทหมดหน้าตัก งัดฟอร์มเก่งออกมาดวลพลังหมัดกับ “เอลบรุส ออสมานอฟ” มวยเชิงสวย วัย 24 ปี จากรัสเซีย เพื่อชิงแต้มกู้ศรัทธาคืนมา โดยทั้งคู่จะสู้กันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในฐานะคู่เอกของศึก ONE ลุมพินี 125 ที่จะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 19 ก.ย.นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.
ตอนนี้ “เสมาเพชร” กำลังถูกแฟนมวยตั้งคำถามอย่างหนักว่า มีดีพอจะไปต่อในรายการของ ONE ได้หรือไม่ หลังจากที่ล่าสุดเจ้าตัวยังเค้นฟอร์มเก่งไม่ออก ตกเป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอยก 2 “อับดุลลา ดายาคาเอฟ” จากรัสเซีย ในศึก ONE Fight Night 31 เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้องสะดุดพ่ายแบบไม่ครบยก 3 ไฟต์ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการอาชีพการชกมวยของเขาด้วย
จากคนที่เคยท็อปฟอร์มขึ้นไปรั้งถึงอันดับ 2 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต “เสมาเพชร” ยอมรับว่าตอนนี้มียอดฝีมือหน้าใหม่ในรุ่นนี้ที่กำลังฟอร์มแรงขึ้นมามากมาย การไต่กลับไปอยู่จุดเดิมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องฝ่าฟันอีกหลายด่าน
อย่างไรก็ตาม “เสมาเพชร” ยังไม่ยอมแพ้ ขอมุ่งมั่นทำหน้าที่ตรงหน้าให้ดีที่สุด โดยนำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปศึกษาและปรับปรุงแก้ไข หวังเรียกฟอร์มเก่งอันคุ้นเคยกลับมาในไฟต์สุดสำคัญที่ไม่อาจพลาดซ้ำได้อีก
“ตอนนี้ผมแพ้ไม่ครบยกติดต่อกัน 3 ไฟต์ จนความมั่นใจเริ่มสั่นคลอน หลายครั้งก็คิดในใจว่า ‘แพ้อีกแล้วหรือ?’ ยอมรับว่ามีท้อบ้าง แต่ไม่เคยคิดจะหยุด เพราะยังมีกำลังใจจากคนรอบข้าง และมีครอบครัวที่ต้องดูแล สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมตัดสินใจเดินหน้าสู้ต่อไป”
“จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมได้บทเรียนหลายอย่าง ทุกวันนี้มีนักมวยหน้าใหม่ฝีมือดีเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ผมอายุมากขึ้น และชื่อเสียงก็เริ่มเลือนหาย แต่ผมมอง ‘น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย’ และ ‘ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์’ เป็นแรงบันดาลใจ เพราะแม้อายุจะเยอะ แต่พวกเขายังสร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้ผมเชื่อว่าตัวเองก็ยังไปต่อได้ครับ”
“ไฟต์นี้เป้าหมายคือต้องกู้ฟอร์มเก่งคืนมา ผมพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดจาก 3 ไฟต์หลัง โดยเฉพาะเวลาที่ถูกคู่ชกออกอาวุธบีบให้ติดเชือก ซึ่งก่อนหน้านี้ผมยังเผลอก้มหน้าอยู่ ทำให้กลายเป็นเป้านิ่ง ครั้งนี้ผมให้เทรนเนอร์จำลองการซ้อมเหมือนสถานการณ์จริง เพื่อฝึกแก้เกมด้วยการวนออก ไม่ยืนเป็นเป้า”
“ด้านสภาพจิตใจ ผมโชคดีที่มีครอบครัวและพี่น้องในค่ายคอยให้กำลังใจ รวมถึงแฟนคลับที่ยังคงติดตามและส่งแรงเชียร์ให้เสมอ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผมมีกำลังใจ และตอนนี้ความรู้สึกก็ค่อย ๆ กลับมาดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้วครับ”

ไฟต์นี้คือบททดสอบทั้งร่างกายและจิตใจครั้งสำคัญของ “เสมาเพชร” ว่าพร้อมฝ่าแรงกดดันกอบกู้ศรัทธามหาชนคืนมาได้หรือไม่ ซึ่งงานนี้เจ้าตัวเชื่อมั่นว่าจะใช้ความเก๋าวัดฝีมือกับความสดของ “เอลบรุส” ได้สนุกแน่
ด้าน “เอลบรุส” เปิดตัวได้อย่างดุดันภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง เมื่อเก็บชัยถึง 6 ครั้งจาก 7 ไฟต์ ล่าสุดข้ามสายมาประเดิมกติกามวยไทยครั้งแรกบนเวทีนี้ และปิดเกมน็อก “คัมภีร์เทวดา สิทธิกุล” พร้อมคว้าโบนัส 350,000 บาท ไปครอง ในศึก ONE ลุมพินี 117 เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา
เสมาเพชร เล็งใช้ความเก๋าวงในเอาชนะความสด
“เสมาเพชร” ยอมรับว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีอะไรจะเสีย และต้องหาทางทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดความแข็งแกร่งของ “เอลบรุส” ลงให้ได้ โดยหวังให้ชัยชนะครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเรียกคืนความมั่นใจ และออกตามล่าความสำเร็จอีกครั้ง
“เอลบรุส เป็นนักสู้สายคิกบ็อกซิ่งเต็มตัว จุดเด่นอยู่ที่พลังหมัด รวมถึงมีลูกเตะกลับหลังและหมัดฟาดกลับหลังเป็นทีเด็ด ซึ่งผมต้องเตรียมแผนรับมือให้รัดกุมที่สุด”
“ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะกังวลกับการขึ้นชกมวยไทยหรือเปล่า แต่มั่นใจว่าเขาจะสู้เต็มที่แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อได้ชกด้วยนวมเล็กและมีความเร็ว ยิ่งทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น ส่วนผมเองมีอาวุธหลากหลาย โดยเฉพาะการเล่นเกมวงใน รวมถึงประสบการณ์และกระดูกมวยที่เหนือกว่า แม้อาจจะเสียเปรียบเรื่องสภาพร่างกายเพราะอายุที่มากขึ้น แต่ก็ยังมั่นใจในศักยภาพของตัวเองครับ”
“ไฟต์นี้วัดกันที่หมัดและความเร็ว ต้องชิงจังหวะใครออกได้มากกว่าและหนักกว่า คนนั้นก็มีโอกาสชนะ แต่ถ้าต้องลากยาวไปถึง 3 ยก ผมก็พร้อมทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้ชัยชนะกลับมาเท่านั้น”
“ศึกครั้งนี้สำคัญมาก เหมือนเป็นจุดชี้ชะตาว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ผมพร้อมสู้แบบดับเครื่องชน เพราะยังไม่อยากหยุดอยู่เพียงเท่านี้ ครอบครัวยังมีภาระ และผมเองก็ถนัดแค่มวยเพราะอยู่กับมันมาตลอดชีวิต ดังนั้น ผมอยากทำให้เต็มที่ และไปให้ถึงจุดที่ดีที่สุดครับ”
ติดตาม “เสมาเพชร vs เอลบรุส” ศึก ONE ลุมพินี 125 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 19 ก.ย.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.