ทำความรู้จัก “อดัม ส.เดชะพันธ์” กำปั้นไฟแรงผู้ฝันตามรอยพี่ชาย “อาลีฟ” สู่ระดับโลก

ทำความรู้จัก “อดัม ส.เดชะพันธ์” ดาวรุ่งน่าจับตา วัย 17 ปี ลูกครึ่งไทย-มาเลย์ น้องชายแท้ ๆ ของ “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” ที่จะมาประเดิมสังเวียนแห่งนี้เป็นครั้งแรก พบกับ “เพชรสาม” นาห์ยัน โมฮัมเหม็ด กำปั้นไฟแรง วัย 16 ปี ตัวแทนจากฝรั่งเศส/แอลจีเรีย โดยทั้งคู่จะสู้กันภายใต้กติกามวยไทย 112 ป. ในฐานะคู่เอกภาคอินเตอร์ของศึก ONE ลุมพินี 107 ซึ่งจะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 9 พ.ค.นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.
“อดัม” ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 28 เม.ย.51 ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นลูกชายคนที่ 3 จากพี่น้องทั้งหมด 4 คน ในครอบครัวที่มีเลือดนักกีฬาอยู่เต็มเปี่ยม โดยคุณแม่ของเขาเป็นชาวมาเลเซีย ส่วนคุณพ่อเป็นอดีตนักมวยไทยและมีพื้นเพเป็นคน จ.นราธิวาส แต่ภายหลังได้เปลี่ยนสัญชาติ และชกมวยในฐานะตัวแทนประเทศมาเลเซีย โดยใช้ชื่อว่า “ราคิบ อาห์เม็ด” (Rakib Ahmed)
ทางด้านพี่ชายของ “อดัม” ทั้งพี่คนโตอย่าง “ฮาคิม” รวมถึงตัว “อาลีฟ” เองต่างก็คลุกคลีอยู่ในวงการกีฬาต่อสู้มานาน โดยมีดีกรีเป็นถึงเจ้าของเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ จึงมีส่วนสำคัญให้ “อดัม” ได้ถูกปลูกถ่ายวิญญาณความเป็นเลือดนักสู้ผ่านทางสายเลือดของครอบครัว โดยพ่อเริ่มหัดมวยให้เขาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ พร้อมตระเวนสร้างชื่อเสียงในเวทีภูธรไปทั่วภาคใต้ของไทย
แต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อ “อดัม” มีปัญหาอาการบาดเจ็บที่นิ้วมือ ทำให้ต้องห่างหายจากการชกมวยไปนานถึง 5 ปี จนกระทั่งอายุ 16 ปี เจ้าตัวถึงได้ตัดสินใจกลับมาชกมวยอีกครั้ง เนื่องจากเห็นพี่ชาย “อาลีฟ” กำลังไปได้สวยในรายการของ ONE ทำให้ตนอยากทดสอบฝีมือในรายการระดับโลกดูบ้าง จึงย้ายตามมาซ้อมที่ค่ายมวย ส.เดชะพันธ์ ในปัจจุบัน
ด้วยสถิติน่าจับตา ชนะถึง 50 ไฟต์จากทั้งหมด 59 ครั้ง แถมล่าสุดเพิ่งชนะน็อกคู่ชกมา 2 ไฟต์รวด เสริมกระดูกฝากผลงานมาหมดแล้วทั้งที่เวทีมวยราชดำเนิน, เวทีมวยอ้อมน้อย และเวทีมวยช่อง 7 สี ทำให้ตอนนี้ “อดัม” พร้อมที่จะยกระดับขึ้นมาอีกขั้นด้วยการพิสูจน์ฝีมือของตัวเองในศึก ONE ลุมพินี โดยมี “อาลีฟ” พี่ชายสุดที่รัก ที่เคยสร้างชื่อในรายการนี้มาก่อนจนคว้าสัญญา ONE มาครองได้ คอยเฝ้าประกบติดช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด
“ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่กำลังจะได้มีโอกาสตามรอย พี่อาลีฟ เข้ามาชกในรายการของ ONE เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะขึ้นมาถึงจุดนี้ได้เร็วขนาดนี้ครับ”
“พี่อาลีฟ เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการชกมวยของผม ผมเฝ้าดูและติดตามการชกมวยของเขามานานมาถึงวันนี้เขาช่วยดูแลคุมเข้มเรื่องการซ้อมให้ผมอยู่ตลอด ทั้งในส่วนของวิธีการชก รวมถึงการแก้เกมทางคู่ต่อสู้ด้วย ตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่ที่ค่ายมวย ส.เดชะพันธ์ เราตัวอยู่ติดกันแทบตลอดเลยครับ”

ไฟต์เปิดตัว “อดัม” ต้องเจองานสุดท้าทายทันที เมื่อถูกประกบให้มาพบกับ “เพชรสาม” ที่แจ้งเกิดได้อย่างสวยงามในศึก ONE ลุมพินี 96 เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ด้วยการปิดเกมน็อกเร็ว “เพชรนพเดช นพเดชมวยไทย” พร้อมคว้าโบนัส 350,000 บาท ไปครองทันที งานนี้ “อดัม” จึงต้องเตรียมตัวมาให้พร้อมมากที่สุด เพื่อลุ้นสร้างชื่อเก็บชัยชนะสวยให้ได้ตั้งแต่ในไฟต์แรก
“อาวุธของ เพชรสาม มีแค่หมัดที่น่ากลัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนอาวุธอื่น ๆ ถือว่าไม่ค่อยน่ากังวลเท่าไหร่ ส่วนจุดอ่อนของเขาผมได้ศึกษามาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ขออุบเป็นความลับก่อน เอาไว้ไปรอดูกันบนเวทีดีกว่า”
“ปกติผมเป็นนักมวยที่มีสไตล์การชกเข้าออกรวดเร็ว ถ้ามองเห็นโอกาสก็พร้อมเข้าทำเล่นงานคู่ชกทันที และการที่ได้เข้ามาชกใน ONE ลุมพินี ผมก็ได้มีการปรับจังหวะฟุตเวิร์กและการปล่อยหมัดให้เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยครับ”
“ไฟต์นี้ผมจะสู้กับทาง เพชรสาม ได้สนุกแน่และมั่นใจด้วยว่าจะปิดเกมน็อกได้ด้วย ส่วนจะทำได้ตอนไหนนั้นก็ต้องไปรอดูจังหวะบนเวทีอีกทีก่อนครับ”
ตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงวันนี้ที่เดินในเส้นทางสายนักสู้ “อดัม” ย้ำตลอดว่าครอบครัวมีความสำคัญต่อตัวเองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพี่ชาย “อาลีฟ” ที่เป็นแรงบันดาลใจสุดสำคัญให้ตนมีความฝันอยากก้าวขึ้นไปยืนอยู่เคียงข้างกันบนเวทีระดับโลกให้ได้

“ครอบครัวเป็นกำลังใจสำคัญในการชกมวยของผมมาตลอด ทุกครั้งเวลาที่มีปัญหาเกิดขึ้น เราจะช่วยกันแก้ปัญหาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ช่วงที่ผ่านมาผมมอง พี่อาลีฟ เป็นต้นแบบที่ดีอยู่เสมอ ผมพร้อมตามรอยพี่ชายไปสู่ระดับโลกให้ได้ครับ”
“ไฟต์แรกผมอยากชกออกมาให้ดีที่สุด เพื่อทำให้แฟนมวยทุกคนเกิดความประทับใจ พร้อมทยอยเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด หลังจากนั้นถึงค่อย ๆ ยกระดับฝีมือของตัวเองให้สูงขึ้น เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายคือคว้าสัญญา ONE มาครองให้ได้ครับ“
ติดตาม “เพชรสาม vs อดัม” ศึก ONE ลุมพินี 107 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 9 พ.ค.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.