มาแกร่งกว่าเดิม อดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลก “บริซ เดลวัล” พร้อมคืนสังเวียน ONE ในรอบ 5 ปี

อดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย “บริซ เดลวัล” นักชกวัย 25 ปี จากแอลจีเรีย มาในเวอร์ชันใหม่ทั้งร่างกายและจิตใจที่แกร่งกว่าเดิม พร้อมหวนคืนสู่สังเวียน ONE ในรอบ 5 ปี โดยหนนี้เขาจะต้องวัดฝีมือกับ “ยอดไอคิว อ.พิมลศรี” มวยซ้ายฟอร์มร้อนแรง วัย 23 จากบุรีรัมย์ ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในฐานะคู่เอกศึก ONE ลุมพินี 109 ที่จะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 23 พ.ค.นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.
“บริซ” เกิดที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส แต่เติบโตบนเกาะเรอูเนียง นอกชายฝั่งมาดากัสการ์ เขาเริ่มต้นเส้นทางนักสู้ตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี จากการเดินทางมายังประเทศไทยและได้ขึ้นชกมวยเป็นครั้งแรกในเวทีภูธรแห่งหนึ่ง ก่อนตัดสินใจออกจากบ้านเกิดเพื่อตามล่าความฝันบนสังเวียนพื้นผ้าใบอย่างเต็มตัว
ในช่วงวัยรุ่น “บริซ” ทุ่มเทฝึกซ้อมมวยอย่างหนักเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย เขาเคยคว้าเข็มขัดแชมป์โลกในระดับสมัครเล่นที่สหรัฐอเมริกา และคว้าแชมป์มวยไทยจากเวที S1 ได้ในวัยเพียง 17 ปี ส่งให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักมวยที่ดีที่สุดของฝั่งโลกตะวันตก
จากนั้นอีกไม่กี่ปีต่อมา “บริซ” คว้าโอกาสที่ยิ่งใหญ่ เข้ามาโลดแล่นใน ONE เมื่ออายุได้ 20 ปี ซึ่งไฟต์แรกเขาเปิดตัวในศึก ONE: IMMORTAL TRIUMPH เมื่อเดือน ก.ย. 62 ในฐานะผู้ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ของ “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” เจ้าของแชมป์ ณ ขณะนั้น
แม้ว่าในวันนั้น “บริซ” จะเป็นรอง “น้องโอ๋” ในแง่ประสบการณ์และกระดูกมวย แต่เขากลับไม่แสดงอาการเกรงกลัวแม้แต่น้อย และใช้ความสูงและช่วงชกที่ยาวกว่ามาชดเชยข้อเสียเปรียบได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งเป็นงานท้าทายของ “น้องโอ๋” ไม่น้อย
เกมการชกบนเวทีเป็นไปอย่างดุเดือด ทั้งคู่ต่างแลกอาวุธกันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร ซึ่งทำเอากรรมการผู้ให้คะแนนเสียงแตก ก่อนจะตัดสินให้ “บริซ” พ่ายคะแนนไม่เอกฉันท์ พลาดโอกาสคว้าเข็มขัดไปอย่างน่าเสียดาย
แม้ว่าจะไม่ได้รับชัยชนะ แต่เขาก็ได้รับคำชื่นชมจากเจ้าของเข็มขัดอย่าง “น้องโอ๋” หลังจบไฟต์ด้วย
“สำหรับ บริซ เป็นนักมวยที่ตัวสูงและแข็งแรงมาก ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่ท้าทายพอสมควร และเป็นไฟต์ที่เหนื่อยมาก ผมชื่นชมฝีมือของเขามาก และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ขึ้นสังเวียนร่วมกัน”

ต่อมาเขาขึ้นชกในศึก ONE: A New Tomorrow เมื่อเดือน ม.ค.63 ซึ่งเป็นไฟต์ครั้งล่าสุดของเขากับ ONE โดยในวันนั้นเขาดวลเดือดกับ “ขุนศอกผีดิบ” เมืองไทย พีเค.แสนชัย จอมบู๊ชาวไทย ได้อย่างตื่นเต้นเร้าใจตลอดทั้ง 3 ยก ก่อนจะพ่ายคะแนนแบบไม่เอกฉันท์อีกครั้ง
หลังจบเกมเขาตัดสินใจพักจากสังเวียนนานถึง 5 ปีเต็มด้วยเหตุผลส่วนตัว ซึ่งหลังจากไปจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้นได้แล้ว เขาจึงกลับมาล่าความฝันในฐานะนักชกอาชีพอีกครั้ง
“ผมตัดสินใจกลับมาชกมวย เพราะมั่นใจว่าชีวิตเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ผมรักมวยไทยจริง ๆ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว การกลับมาครั้งนี้ ผมตั้งใจจะฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด และผมมีความสุขมากที่ได้กลับมา รู้สึกตื่นเต้นสุด ๆ ที่จะได้ขึ้นชกอีกครั้งครับ”
ก่อนจะคัมแบ็กสู่สังเวียน ONE “บริซ” ได้ชิมลางกลับมาขึ้นชกไปแล้ว 1 ไฟต์ในช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมาพร้อมโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมและคว้าเข็มขัดแชมป์เฉพาะกาลของสนามมวยเวทีลุมพินี รุ่น 154 ปอนด์ มาครองได้สำเร็จ โดยปัจจุบันถือครองสถิติรวมตลอดเส้นทางอาชีพอยู่ที่ ชนะ 34 ครั้ง แพ้ 8 และ เสมอ 2
การกลับคืนสู่สังเวียน ONE ครั้งแรกในรอบ 5 ปีของเขามีภารกิจสุดหินรออยู่ โดยต้องเผชิญหน้ากับ “ยอดไอคิว” นักชกฟอร์มแรงชาวไทยที่เดินหน้ากวาดชัยชนะมาแล้วถึง 8 จาก 9 ไฟต์ในรายการ ONE ลุมพินี และยังถือสถิติชนะ 6 ไฟต์ติดต่อกันในเวลานี้
ในวัย 25 ปี “บริซ” แสดงความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าการฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงและมุมมองการชกที่เติบโตขึ้น จะเพียงพอสำหรับหยุดความร้อนแรงของดาวรุ่งชาวไทย และประกาศการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของเขาบนเวทีระดับโลก

“ตอนที่แพ้ให้กับ น้องโอ๋ และ เมืองไทย ตอนนั้นผมยังอายุน้อย ทั้งการต่อสู้ การฝึกซ้อม รวมถึงมุมมองความคิดยังไม่พัฒนาเท่าปัจจุบัน แต่ตอนนี้ผมมีวุฒิภาวะมากขึ้น ชกได้ฉลาดขึ้น และตัดสินใจได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก”
“สำหรับ ยอดไอคิว เป็นนักมวยที่มีฝีมือ แข้งเฉียบคม และไอคิวมวยยอดเยี่ยม ผมเชื่อว่าการเจอกันของเราจะเป็นไฟต์ที่น่าตื่นเต้น และสร้างความประทับใจให้กับแฟนมวยได้แน่นอน ผมหวังว่าจะเอาชนะแบบขาดลอย และอยากจะน็อกเขาให้ได้”

“การกลับมาครั้งนี้ถือเป็นไฟต์สำคัญที่สุดในชีวิต ผมตั้งใจจะบู๊เต็มที่ งัดทุกอาวุธทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ออกมาโชว์ให้แฟนมวยได้เห็นถึงศักยภาพที่มี”
ติดตาม “ยอดไอคิว vs บริซ เดลวัล” ศึก ONE ลุมพินี 109 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 23 พ.ค.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.