นวมใหญ่ก็น็อกได้! “ทองพูน” เล็งเดินเกมบุกล้ม “เป่ยเหมียน” ประเดิมชัยคิกบ็อกซิ่งไฟต์แรก
“ทองพูน พีเค.แสนชัย” เจ้าของฉายา “โล้นทองคำ” ประกาศความมั่นใจพร้อมเปิดตัวบนเส้นทางคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกกับ “จาง เป่ยเหมียน” คู่ชกสายบู๊จากจีน ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 137: ตะวันฉาย vs เมิงหยาง ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.

“ทองพูน” ถือเป็นมวยหมัดหนักที่เปิดตัวได้อย่างสวยงามใน ONE ลุมพินี โดยเก็บชัยชนะต่อเนื่องได้ถึง 3 ไฟต์จนคว้าสัญญา ONE มาครองได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นผลงานยังไม่ปังดังใจหวัง โดยในไฟต์ล่าสุดแฟนมวยต่างช็อก เมื่อ “ทองพูน” โดน “เอลเมห์ดี เอล จามารี” จากโมร็อกโก สอยร่วงแพ้น็อกเอาต์เพียงยกแรกเท่านั้น
“ไฟต์นั้นผมพลาดครับ เป็นความประมาทที่ไปบวกกับเขาซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จังหวะนั้นถ้าโดนต้องแก้ด้วยการกอด ยิ่งมาดูคลิปย้อนหลังก็ยิ่งหงุดหงิดตัวเอง”
“หลังเกมนั้นก็มีเสียงวิจารณ์มามากพอสมควร ผมเครียดไปพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็คิดได้ว่า มีทั้งคนรัก คนเกลียด เป็นเรื่องธรรมดา อะไรที่ผิดพลาดก็เก็บเป็นบทเรียน ผมกลับมาปรับตัวเองใหม่ ตอนนี้ถือว่าจิตใจพร้อม ร่างกายพร้อม เลยตัดสินใจรับชกอีกครั้งครับ”
ปรับสไตล์ เพิ่มความเร็ว สู่คิกบ็อกซิ่ง
การกลับมาขึ้นสังเวียนครั้งนี้ “ทองพูน” เลือกเดินบนเส้นทางใหม่ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งเขายอมรับว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ และต้องปรับตัวไม่น้อย แต่เชื่อมั่นในพื้นฐานมวยที่ตัวเองมีและได้รับแรงสนับสนุนจากทีมงานในค่ายเป็นอย่างดี

“ผมได้ลองซ้อมแล้วลองเปลี่ยนวิธีการชก รู้สึกว่าค่อนข้างยากในช่วงแรก แต่หลังจากปรับตัวได้ ก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น ผมว่าน่าจะง่ายกว่ามวยไทยเยอะ ความต่างอยู่ที่กติกาคิกบ็อกซิ่งต้องอาศัยความไวมากกว่า ผมศึกษากติกามาพอสมควรและพร้อมสำหรับการชกคิกบ็อกซิ่งครับ”
“การเตรียมพร้อมครั้งนี้มีโค้ชและนักมวยต่างชาติผลัดกันมาช่วยสอน และมีพี่พระจันทร์ฉาย ช่วยสอนเทคนิคการชกนวมใหญ่ ถือว่าดีสำหรับผมมากครับ”
“ส่วนกระแสแฟนมวยที่มองว่าผมถนัดชกแบบมวยไทยนวมเล็ก พอมาสวมนวมใหญ่อาจจะยากที่ผมจะน็อกคู่ต่อสู้ได้ แต่ผมมองว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเคยชกมวย 5 ยก ที่ใช้นวมใหญ่มาก่อน เพียงแค่ต้องดึงศักยภาพตรงนั้นกลับมาใช้“
“เป่ยเหมียน” ด่านอันตรายจากแดนมังกร
ด้าน “เป่ยเหมียน” คู่ชกจากจีนถือเป็นนักชกคิกบ็อกซิ่งที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน ดีกรีอดีตคู่ชิงแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) กับ “โจนาธาน ดิ เบลลา” ในศึก ONE 162 เมื่อ 21 ต.ค. 65 แม้จะเป็นฝ่ายแพ้คะแนนเอกฉันท์ไป แต่เขาสามารถเอาชนะ “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” ในศึก ONE ลุมพินี 58 เมื่อ 5 เม.ย. 67 การเปิดตัวบนสังเวียนใหม่ของ “ทองพูน” จึงถือว่าต้องผ่านด่านโหดไม่น้อย
“สำหรับ จาง เป่ยเหมียน เขาเคยชิงแชมป์กับ ดิ เบลลา ก็ถือว่าอันตราย ไฟต์ที่เขาเจอกับ อาลีฟ ก็เห็นว่าเขาออกหมัดได้น่ากลัว เขาเป็นมวยสไตล์ บู๊ ดุดัน ออกหมัดเร็ว ต่อยลำตัวดี สเตปฟุตเวิร์กเข้าออกรวดเร็ว ส่วนข้อได้เปรียบอื่นก็คงเป็นเรื่องประสบการณ์และรูปร่างใหญ่กว่า”
“ส่วนจุดอ่อนของเขา ผมและทีมงานมองเห็นเหมือนกันว่า ถ้าโดนอาวุธเขาจะออกอาการชะงักและทรุด เขาคงตั้งใจเดินเข้าหาผมอยู่แล้ว แต่ผมจะสกัดด้วยลูกถีบ เตะขา กระแทกหน้า พยายามถอยให้น้อยที่สุด แผนหลักของผมคือ ต้องชิงเดินก่อนและบีบพื้นที่เขาให้เขาถอยให้ได้ครับ”

“ในไฟต์นี้ผมถือว่าซ้อมมาในเวอร์ชันคิกบ็อกซิ่งได้ดีมาก มั่นใจมาก ถ้าไฟต์นี้ชนะก็คิดว่าจะแข่งในกติกาคิกบ็อกซิ่งไปยาว ๆ ฝากถึง จาง เป่ยเหมียน เรามาซัดกันบนเวทีให้รู้ว่าใครเจ๋ง ผมจะเอาชนะคุณในกติกาคิกบ็อกซิ่งให้ได้”
ติดตาม “เป่ยเหมียน vs ทองพูน ” ศึก ONE ลุมพินี 137: ตะวันฉาย vs เมิงหยาง ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 19 ธ.ค.นี้ ส่วนบัตรเข้าชมในสนามจำหน่ายหมดแล้ว หากท่านใดที่ซื้อบัตรไม่ทัน สามารถรับชมถ่ายทอดสดทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.