แพ้ไม่ได้! “ตะวันฉาย” เปิดโหมดคิกบ็อกซิ่ง 100 เปอร์เซ็นต์ ชน “หลิว เมิงหยาง”
“ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) พร้อมปลดล็อกปมผิดหวังในใจ ล่าชัยบนเส้นทางคิกบ็อกซิ่งอีกครั้งกับ “หลิว เมิงหยาง” คู่ชกแดนมังกรจอมอึด ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 137: ตะวันฉาย vs เมิงหยาง ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.

เดิมที “ตะวันฉาย” และ “หลิว เมิงหยาง” ถูกวางตัวให้พบกันใน ศึก ONE ลุมพินี 126 เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ “ตะวันฉาย” ได้รับบาดเจ็บระหว่างซ้อมจึงถอนตัวไป และได้ “ชาโด้ สิงห์มาวิน” ขึ้นชกแทน แต่ทาง “หลิว เมิงหยาง” กลับปรามาส “ตะวันฉาย” ว่ากลัวความพ่ายแพ้จึงต้องขอถอนตัว ซึ่งนักชกชาวไทยได้ออกมาชี้แจงประเด็นนี้ว่า
“ครั้งนั้นผมมีอาการบาดเจ็บที่ขาบริเวณต้นขาหลัง และ กล้ามเนื้อด้านหลัง เพราะซ้อมหนักเกินไปจนกล้ามเนื้อกระตุกเฉียบพลัน หมอเลยให้หยุดพักก่อน ส่วนที่เขาบอกว่าผมกลัวเขา ก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่สำหรับผม ไม่มีใครกลัวใครหรอกครับ ผมคิดว่าเขาพูดเอาเอนเกจเมนต์มากกว่า ในใจเขาก็รู้อยู่ เดี๋ยวไฟต์นี้ก็รู้ว่าเป็นยังไง”

แพ้ช็อกโลกแต่ไม่ท้อ
“ตะวันฉาย” เคยประกาศจะคว้าแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต มาพาดบ่าคู่กับเข็มขัดมวยไทย โดยเริ่มต้นเส้นทางคิกบ็อกซิ่งอย่างสวยงามด้วยการเอาชนะนักชกชั่วโมงบินสูงได้ถึงสองคน คือ “ดาวิต คิเรีย” จากจอร์เจีย และ “โจ ณัฐวุฒิ” ก่อนที่จะแพ้ทีเคโอให้กับ “มาซาอากิ โนอิริ” แบบช็อกโลก ในศึก ONE 172 เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นบาดแผลในใจเขามาจนถึงวันนี้
“หลังจากจบไฟต์นั้นก็ผิดหวังในตัวเองมากครับ ถือว่าช็อกโลกไปเลย ผมพลาดโดนหมัดเขาในจังหวะแทงเข่า เพราะการ์ดตก ที่จริงแล้วรูปเกมวันนั้นก่อนยกที่สาม ผมคิดว่าทำได้ดี จังหวะหนึ่งสองทำได้ดีมาก แต่เขาก็เตรียมตัวมาดีเหมือนกัน ถ้าวันนั้นไม่พลาด ผมคิดว่ามีสิทธิ์ชนะ แต่เราก็รู้ตัวว่าผิดพลาดตรงไหน ผมจึงอยากแก้มือ”
ความพ่ายแพ้ในไฟต์ที่พบกับ “มาซาอากิ” ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยถึงความเหมาะสมของ “ตะวันฉาย” ในการไต่อันดับแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง แต่เขาใช้มันเป็นเชื้อเพลิงผลักดันให้พุ่งสู่เป้าหมาย
“วันนั้นแฟน ๆ อาจจะบอกว่า ตะวันฉาย ยังไม่พร้อมสำหรับคิกบ็อกซิ่ง แต่สำหรับผมคงไม่มีใครที่ขึ้นชกแล้วได้เป็นแชมป์เลย มันต้องพัฒนาตัวเองและต้องพิสูจน์ตัวเองหลายอย่าง ไม่มีใครไม่เคยแพ้ ผมเก็บคำดูถูกมาเป็นแรงจูงใจ และยังเชื่อมั่นอยู่ว่า ปีหน้าน่าจะได้เป็นแชมป์คิกบ็อกซิ่งครับ”
“ตะวันฉาย” โฟกัสคิกบ็อกซิ่งเต็มร้อย
คู่ชกที่ “ตะวันฉาย” ต้องเผชิญหน้าอย่าง “หลิว เมิงหยาง” ถือเป็นบททดสอบสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ เขายอมรับว่านักสู้จากจีนคนนี้มีจุดเด่นในเรื่องความแข็งแกร่งและความอึดถึกทน
“หลิว เมิงหยาง เป็นมวยที่อึด ถึก ทน แล้วก็ต่อยหมัดได้ดี ที่เห็นชัดมีแค่นี้ ถึงเขาจะมองว่าประสบการณ์ชกคิกบ็อกซิ่งมากกว่าจะทำให้ผมได้เปรียบ แต่บนเวทีอะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ต้องรอดูว่าเขาจะมีจุดอ่อนอะไรบ้าง”

แม้หลายฝ่ายจะจับตามองจากผลงานของ “หลิว เมิงหยาง” ที่เคยเอาชนะนักสู้พันธุ์แกร่งอย่าง “ชาโด้” และ “มาซาอากิ” ซูเปอร์สตาร์คิกบ็อกซิ่งชาวญี่ปุ่นมาแล้ว แต่ ตะวันฉาย ยืนยันว่า ผลงานในอดีตของคู่ชกไม่ได้ทำให้เขาหวั่นไหวแม้แต่น้อย
“ในไฟต์ก่อน ๆ ที่เขาชนะ ชาโด้ กับ มาซาอากิ ไม่ได้มีผลอะไรกับผมครับ ตอนนี้ผมโฟกัสคิกบ็อกซิ่งแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมซ้อมหนักมาก และทบทวนสิ่งที่ตัวเองไม่มี ส่วนอาวุธที่มั่นใจก็แน่นอนว่าเป็นเตะซ้าย รูปเกมไฟต์นี้ ไม่ชนะน็อกก็ชนะคะแนน ไม่ผมก็เขาที่จะชนะ”
“ครั้งนี้แฟน ๆ จะได้เห็นตะวันฉายในแบบฉบับคิกบ็อกซิ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม เป็นไฟต์ที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะหนักขนาดไหนก็ต้องชนะให้ได้ ฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ ผมเต็มที่แน่นอน ไฟต์ที่แล้วทุกคนอาจจะผิดหวังกับผมมาเยอะ แต่ไฟต์นี้เราจะชนะไปด้วยกันครับ”
ติดตามศึก ONE ลุมพินี 137: ตะวันฉาย vs เมิงหยาง ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 19 ธ.ค.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.