จากคำด่าสู่เสียงตบมือ! “ปตท.” เป็นปลื้มคว่ำ “กุหลาบดำ” พิสูจน์ตัวชนะใจคนดู
“ปตท. อภิชาติฟาร์ม” กำปั้นผู้มีถิ่นกำเนิดจากนครสวรรค์ ยกชัยชนะเหนือ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” ยอดมวยหมัดดุจากสุรินทร์ ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 137 เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา เป็นบทพิสูจน์ฝีมือครั้งสำคัญ ที่เจ้าตัวเชื่อว่าจะช่วยเรียกศรัทธาและแรงสนับสนุนจากแฟนมวยกลับมาอีกครั้ง
ไฟต์นี้ “ปตท.” กลับคืนสู่สังเวียนด้วยความมั่นใจ หลังเพิ่งเก็บชัยชนะไฟต์แรก จากการเอาชนะคะแนนไม่เอกฉันท์ “อาเลสสิโอ มาลาเทสตา” จากอิตาลี ในศึก ONE ลุมพินี 126 เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 68 โดยถูกประกบให้มาดวลกับคู่ชกสุดอันตรายอย่าง “กุหลาบดำ” ที่กำลังฟอร์มแรง ชนะมา 4 ไฟต์ติดต่อกัน
ก่อนขึ้นชก “ปตท.” ยอมรับว่าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นที่ต้องพบกับ “กุหลาบดำ” เพียงแต่มีแอบผิดหวังเล็กน้อย หลังแฟนมวยในโลกโซเชียลส่วนใหญ่มองว่า ตนแทบไม่มีโอกาสคว้าชัยในไฟต์นี้
“ผมอ่านคอมเมนต์ตั้งแต่วันแรกที่มีการประกบเจอกับ กุหลาบดำ ซึ่งส่วนใหญ่พูดกันอยู่แค่สองคำคือ ‘หลับ’ กับ ‘ยับ’ ยอมรับว่ามีแอบรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง เพราะหลายคนมองว่าผมเป็นรองเกินไป แค่เห็นผมชกในศึก ONE ลุมพินี เพียง 2 ไฟต์ ก็รีบตัดสินว่าผมมีดีแค่การตั้งรับอย่างเดียว”
“ผมก็ไม่อยากว่าอะไรแฟนมวยมาก เขาก็มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์เพราะผมเป็นคนสาธารณะ แต่อยากให้ช่วยกำลังใจผมหน่อย อยากได้กำลังใจบ้างครับ แต่ผมก็ต้องขอขอบคุณคำด่าที่ทำให้ผมมีแรงผลักดัน และอยากพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้นครับ”
สุดท้าย เกมการชกไฟต์นี้กลับออกมาเหนือความคาดหมาย เมื่อ “ปตท.” เดินลุยตามสไตล์ถนัด กดหมัดส่ง “กุหลาบดำ” ร่วงลงพื้น ได้นับตั้งแต่ยกแรก ก่อนเปิดโหมดบู๊ทั้งวงนอกและวงในตลอดช่วงเวลาที่เหลือ จนเข้าป้ายชนะไปด้วยคะแนนเสียงข้างมาก (ชนะ 2 เสมอ 1)
“จังหวะได้นับในยกแรก ผมชกเข้าเป้าแบบไม่คาดคิดจนคู่ชกร่วงลงไป ทำให้มั่นใจว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่พอเข้ายกสอง ทีมงานยังย้ำให้เดินบี้ต่อ เพราะหมัดของ กุหลาบดำ ไว้ใจไม่ได้ ผมจึงพยายามหาจังหวะโต้กลับตลอด เพื่อทำให้คู่ชกอ่อนแรง และจำกัดความอันตราย”
“หลังผ่านสองยก ทีมงานแจ้งว่านำคะแนนขาด ยกสุดท้ายผมจึงผ่อนเกมลง ทำให้แฟนมวยเห็นสไตล์ของผมที่แปลกตาไปบ้าง ส่วนภาพรวมไฟต์นี้ผมให้คะแนน 7 เต็ม 10 โดยยังต้องปรับตัวกับการชกรุ่นนี้ เพราะห่างจากพิกัดนี้มานานหลายปีครับ”
ปตท. พร้อมปรับข้อบกพร่อง ลุยต่อรุ่นแบนตัมเวต
แม้จะคว้าชัยชนะมาครองอย่างน่าประทับใจ แต่ “ปตท.” ยังคงต้องการเวลาเพื่อพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้น หวังปั้นฟอร์มให้คู่ควรกับการคว้าสัญญา ONE ในวันข้างหน้า โดยยืนยันขอเดินหน้าพิสูจน์ผลงานในรุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ต่อไป
“ผมขอเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อแก้ไขและทำผลงานให้ดียิ่งขึ้น ส่วนเรื่องสัญญา ONE ยังไม่อยากตั้งความหวัง แค่ขอโอกาสขึ้นชกอย่างต่อเนื่อง ทำฟอร์มให้ดีจริงและพิสูจน์ตัวเองให้ชัดเจน เพราะนักชกระดับ วัน แชมเปียนชิพ ถือเป็นตัวท็อป ผมรู้ว่ายังต้องพัฒนาไปอีกก่อนจะไปถึงจุดนั้น”
“ผมตั้งใจจะชกในพิกัด 145 ป. ต่อไป ซึ่งหากต้องลดน้ำหนักลงไปต่ำกว่านี้คงไม่ไหวแล้ว แต่หากทางรายการจัดให้ชกในพิกัดระหว่าง 145–148 ป. ผมพร้อมขึ้นสู้ได้ทั้งหมด ขอเพียงแค่ได้รับโอกาส แต่หากต้องขยับไปถึง 150 ป. ก็คงยาก เพราะเป็นรุ่นที่ใหญ่เกินไปอีกครับ”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH