ฝันใหญ่ต้องไขว่คว้า “ชาโด้” พร้อมเฉิดฉายบนเวทีโลก ยกระดับฐานะและทำให้แม่ภูมิใจ
![Cover_OL52_Shadow02](https://cdn.onefc.com/wp-content/uploads/sites/5/2024/02/Cover_OL52_Shadow02.jpg)
“ชาโด้” เผชิญหน้าความท้าทายครั้งสำคัญในอาชีพนักมวย ประเดิมเปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี สานฝันเพื่อแม่และครอบครัวยกระดับคุณภาพชีวิต
“เงามืดมรณะ” ชาโด้ สิงห์มาวิน มวยซ้ายยอดกตัญญู วัย 24 ปี จากเมืองตาก ดีกรีแชมป์เวทีมวยราชดำเนิน รุ่น 147 ป. เดินหน้าท้าชนประสบการณ์ใหม่ โดยจะพบกับ “มามูกา อูซูบายัน” นักสู้หมัดคม วัย 30 ปี เจ้าของแชมป์คิกบ็อกซิ่งจากรัสเซีย เพื่อแย่งแต้มชัยแรกกันในกติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145 – 155 ป.) ขึ้นป้ายคู่เอกภาคอินเตอร์ของ ศึก ONE ลุมพินี 52 ที่จะถ่ายทอดสดจากเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 16 ก.พ.นี้
สำหรับ “ชาโด้” หรือ “นายวีรภัทร ปรีชา” มีชื่อเล่นว่า “เอ็ม” เติบโตมากับแม่และพ่อเลี้ยง โดยใช้ชีวิตอย่างยากลำบากตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุ 12 ปี เขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางมวยครั้งแรกจากการชักชวนของรุ่นพี่อยู่ที่ค่าย ศ.ธวีศิลป์ หลังจากนั้นก็ตระเวนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชกตามเวทีในเขตภูธรเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือแม่และส่งน้องชายอีกสองคนได้เรียนหนังสือ
จากนั้นเมื่ออายุ 15 ปี “ชาโด้” ได้โยกย้ายมาอยู่กับค่าย อ.วันเชิด ที่จังหวัดสิงห์บุรี และได้โอกาสขึ้นมาชกที่เมืองหลวงเป็นครั้งแรกจนเริ่มกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่ค่ายมวยสวนอาหารปีกไม้ ที่จังหวัดสระบุรี นานกว่า 4 ปี ซึ่งเรียกว่าได้ว่าช่วงเวลานั้น “ชาโด้” กำลังไปได้สวยเนื่องจากถูกจับตาในฐานะดาวรุ่งอนาคตไกล แต่เมื่อวิกฤติโควิด-19 มาถึง ชีวิตเกิดพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากนักมวยดาวรุ่งก็กลายเป็นคนว่างงานทันที
ด้วยเส้นทางมวยไม่อาจไปต่อ “ชาโด้” จึงต้องกลับไปตั้งหลักที่บ้านเกิด จังหวัดตาก โดยยึดอาชีพเสริมเป็นช่างแอร์เพื่อประคองชีวิตนานเกือบ 2 ปี แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ลืมความฝันอยากเป็นนักมวย โดยยังคงฝึกซ้อมทุกวันเพื่อคงสภาพร่างกายให้ดีอยู่เสมอ สุดท้ายเมื่ออายุได้ 22 ปี เขาได้คำแนะนำจากพี่ที่เคารพให้มาอยู่ที่ค่ายสิงห์มาวิน ซึ่งเจ้าตัวใช้เป็นสถานที่ฝึกปรือรื้อฟื้นวิชาและพัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ความสำเร็จที่เวทีราชดำเนินในฐานะแชมป์ นอกจากจะทำให้ “ชาโด้” ได้รับการยอมรับในเรื่องฝีมือน่าจับตาแล้ว เรื่องราวชีวิตอันน่าประทับใจจากการเป็นลูกยอดกตัญญูก็ขจรขจายไปไกลจนได้รับการยกย่องมากมายจากแฟนมวยเช่นกัน โดยตอนนี้เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า “ชาโด้” มี “แม่แป้ง” นางสมยง สีด้วง เป็นกำลังใจสำคัญในการขึ้นสู้แต่ละครั้งของเขา และถึงเวลาแล้วที่ “ชาโด้” จะอ้าแขนรับความท้าทายครั้งสำคัญในการเปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี เพื่อตามล่าฝันที่ใหญ่กว่า และทำให้แม่ที่เคารพรักได้ภูมิใจยิ่งขึ้นไปอีก
งานนี้ “ชาโด้” รู้ซึ้งดีว่าการข้ามฝากมาสู้ในศึก ONE ลุมพินี ที่นักมวยทุกคนต่างใฝ่ฝันคือภารกิจสุดท้าทาย แต่เจ้าตัวก็ไม่หวั่น และพร้อมสั่งสมประสบการณ์ในเวทีมาตรฐานระดับโลก ที่มีทั้งโอกาสและช่องทางต่อยอดมากมายซึ่งจะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายสำคัญนั่นคือการยกระดับให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น
“ผมติดตามดูรายการ ONE ลุมพินี มาตลอด และคิดว่าทุกคนที่ได้มาชกในศึก ONE ลุมพินี ต่างก็มีความฝันอยากก้าวไปชกรายการใหญ่ระดับโลก แน่นอนว่าปลายทางผมก็ต้องมองไปถึงตรงจุดนั้นด้วย”
“สำหรับผมทุกไฟต์ที่ขึ้นไปยืนบนเวทีมีความหมาย สิ่งที่ผมอยากได้คือชัยชนะและเงินโบนัส ผมเห็นนักมวยหลายคนได้โบนัสเป็นเงินก้อนโต ผมเองก็อยากได้แบบนั้นเหมือนกัน ผมมองว่าถ้าผมเลือกมาเส้นทางนี้แล้วรุ่ง เก็บโบนัสได้ต่อเนื่อง ผมสามารถพลิกชีวิตได้เหมือนคนอื่น ๆ ที่มาชกในรายการนี้ และน่าจะทำให้ครอบครัวของผมมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเยอะครับ
“ที่สำคัญมากที่สุด คือถ้าผมชนะจะได้เห็นรอยยิ้มจากแม่แน่นอน การได้ทำให้เขามีความสุข ผมก็มีความสุขตามไปด้วยครับ”
นอกจากนี้ “ชาโด้” ยังเชื่อว่าการชกใน ONE ลุมพินี จะช่วยให้เขาได้โอกาสลองอะไรใหม่ที่ไม่เคยลอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสู้ภายใต้นวมเปิดนิ้ว ขนาด 4 ออนซ์ ที่จะช่วยให้เขาต้องพัฒนาฝีมือขึ้นในอีกระดับ
“การได้มาชกในศึก ONE ลุมพินี ผมต้องปรับตัวเยอะมาก ผมจะชกนวมเล็กเป็นครั้งแรก ต้องคอยระวังเรื่องป้องกันตัวให้ดี ไม่อย่างนั้นมีเจ็บหนักแน่นอน ไฟต์เปิดตัวผมอยากชกให้มันที่สุด เพื่อเอาชนะและคว้าโบนัสมาครองให้ได้ รวมถึงเป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลังอายุครบ 24 ปี (11 ก.พ.) ให้กับตัวเองด้วย ผมคิดว่าอาจต้องใช้เวลาปรับตัวขึ้นชกในรายการนี้อีก 2-3 ไฟต์ ทุกอย่างถึงจะลงตัวมากขึ้นครับ”
![OL52_ShadowJulio](https://cdn.onefc.com/wp-content/uploads/sites/5/2024/02/OL52_ShadowJulio-1200x799.jpg)
ภารกิจวัดใจครั้งแรกของ “ชาโด้” ในศึก ONE ลุมพินี ต้องวัดฝีมือกับ “มามูกา” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเก่งกาจในกติกาคิกบ็อกซิ่ง แต่ด้วยไฟต์นี้ชกในกติกามวยไทยเจ้าตัวจึงเห็นโอกาสที่จะเอาชนะได้ โดยตั้งใจจะประเดิมการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เพื่อกรุยทางสู่โอกาสไต่สู่เวทีระดับโลกต่อไป
“ไฟต์นี้ผมเจอกับ มามูกา สู้กันในกติมวยไทย ทำให้ผมอาจได้เปรียบในเรื่องความคุ้นชินกติกาอยู่บ้าง แต่เขาถนัดในสไตล์คิกบ็อกซิ่ง เราไม่รู้ว่าเขาจะออกมาสู้ในรูปแบบไหน เพราะออกอาวุธได้ไวมาก เขาเป็นนักมวยจังหวะฝีมือ ที่มีความแข็งแรงและชกซ้ายได้แม่นมาก ส่วนจุดอ่อนของเขาอาจเป็นตรงขาที่ผมน่าจะจ้องโจมตีมากเป็นพิเศษครับ ผมยังไม่เคยชก ONE ลุมพินี มาก่อน ต้องไปดูกันบนเวทีว่ารูปเกมจะออกมาเป็นแบบไหน แต่ผมพร้อมสู้เต็มที่และไม่ประมาทคู่ต่อสู้ครับ”
ติดตามชม “ชาโด้ vs มามูกา” ศึก ONE ลุมพินี 52 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 16 ก.พ.นี้ คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com