เกือบหลับแต่กลับมาได้ “น้องโอ๋” เผยปรับแผนใช้ลูกเก๋าบด “ก้องธรณี” ยกสาม เชื่ออนาคตได้เห็นศึกไตรภาค

“น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) วัย 38 ปี จากสกลนคร เปิดใจเล่าถึงเกมการชกบนเวทีที่ตกเป็นรองในช่วงยกสอง แต่สามารถพลิกสถานการณ์ในยกสุดท้าย จนสามารถแก้มือเอาชนะ “ก้องธรณี ส.สมหมาย” มวยซ้ายฟอร์มดุ วัย 28 ปี จากเพชรบูรณ์ เจ้าของเก้าอี้เบอร์ 3 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ได้สำเร็จ ในศึก ONE Fight Night 31 เมื่อวันเสาร์ที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา

ภาคแรกระหว่างทั้งคู่เกิดขึ้นในศึก ONE Fight Night 28 เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยในวันนั้น “น้องโอ๋” ลดน้ำหนักลงมาชกในรุ่นฟลายเวต เป็นครั้งแรก และ “ก้องธรณี” ที่ ณ ตอนนั้นรั้งตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง อาสาขึ้นสังเวียนพิสูจน์ฝีมือของรุ่นพี่จอมเก๋าดีกรีอดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.)
ไฟต์นั้นถูกยกให้เป็นหนึ่งในคู่มวยที่สนุก ดุเดือด และเร้าใจที่สุดคู่หนึ่งในรายการ ซึ่งผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะคะแนนของ “ก้องธรณี” แบบไม่เอกฉันท์ ทิ้งปริศนาคาใจให้ทั้งสองฝั่ง จน ONE ตัดสินใจไม่รอช้า จัดรีแมตช์ภาคสองในครั้งนี้ ซึ่ง “น้องโอ๋” เองก็เตรียมตัวมาอย่างเต็มที่ เพื่อหวังแก้มือคว้าชัยชนะให้ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
“ความพร้อมก่อนขึ้นสังเวียนในครั้งนี้ถือว่าดีกว่าครั้งที่แล้ว ร่างกายผมปรับตัวได้ดีมากขึ้นกับการอยู่ในรุ่นฟลายเวต ผมใช้เวลาในการฝึกซ้อมไปกับการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในไฟต์ที่แล้วเยอะมาก และเตรียมแผนการมารับมือ ก้องธรณี เป็นอย่างดีครับ”
เกมการชกครั้งนี้ สนุก สุดมัน ไม่แพ้ไฟต์แรก หลังต่างฝ่ายต่างแลกอาวุธกันอย่างดุเดือด และมีโอกาสที่จะปิดเกมด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็เผด็จศึกกันไม่ลง จนต้องไปชี้ขาดกันที่ผลคะแนนเหมือนภาคแรก ซึ่งปรากฏว่าครั้งนี้กรรมการพร้อมใจกันลงคะแนนให้ “น้องโอ๋” เป็นฝ่ายชนะไปแบบเอกฉันท์ ล้างตาเอาคืนได้สำเร็จ
“ไฟต์นี้ถือว่าสูสีกันมาก ในยกสองที่ผมโดนหมัดหนัก ๆ เข้าไป ก็มีอาการเมาชัดเจน แต่เพราะการเตรียมตัวซ้อมมาอย่างดี บวกกับวางแผนมาเยอะ และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ เลยทำให้ผมเอาตัวรอดไปได้”
“หลังจบยกสอง ตอนนั้นในหัวคิดว่าสถานการณ์ยังสูสีกันอยู่ ซึ่งยกสุดท้ายจะต้องเป็นตัวชี้ขาดผลแพ้ชนะแน่นอน ผมเลยออกมาใช้ลูกประสบการณ์ที่มีมากกว่า ในการหาจังหวะออกแข้ง ออกเข่าให้มากขึ้น ลดการเล่นงานที่ขา แล้วเปลี่ยนมาโจมตีลำตัวแทน เพราะเห็นว่าเขากังวลเรื่องการโดนเตะขา เลยทำให้ลำตัวเปิดกว้าง ซึ่งเป็นช่องให้ผมเล่นงานได้ครับ”
“ตอนรอฟังการประกาศคะแนน ผมรู้สึกมั่นใจมากกว่าในไฟต์แรกว่าจะต้องเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอนครับ”
ชัยชนะครั้งนี้นอกจากจะเป็นการล้างแค้นได้สำเร็จแล้ว “น้องโอ๋” ยังสามารถกระชากโบนัส 5 หมื่นดอลลาร์ (เกือบ 1.7 ล้านบาท) มาครองได้อย่างสุดเซอร์ไพรส์อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการประเดิมชัยชนะในรุ่นฟลายเวตได้อย่างสวยงาม ของกำปั้นระดับตำนานวัย 38 ปี รายนี้
“ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์มากที่ได้รับโบนัสก้อนใหญ่ในครั้งนี้ ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะคว้ามาได้ ถือว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา และเป็นชัยชนะที่ผมภูมิใจอย่างมากครับ”
“ผมยอมรับในฝีมือของ ก้องธรณี การย้ายไปซ้อมกับค่ายใหญ่อย่างค่ายมวยพีเค.แสนชัย ยิ่งทำให้ฝีมือของเขาแกร่ง และพัฒนาขึ้นมาก แต่ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนที่ซ้อมใหม่มันต้องใช้เวลาในการปรับตัว และไฟต์หน้าเขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้ครับ”
ในขณะที่เป้าหมายหลังจากนี้ “น้องโอ๋” ในวัย 38 ปี ยืนยันชัดเจนว่าถึงเวลานี้ตนปรับตัวเข้ากับการชกในรุ่นฟลายเวต ได้เต็มร้อยแล้ว และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับคู่ชกระดับพระกาฬทุกคนในรุ่นฟลายเวตต่อไป ซึ่งอาจรวมไปถึงการเปิดศึกไตรภาคกับ “ก้องธรณี” ด้วยเช่นกัน
“ตอนนี้ร่างกายผมเข้าที่และพร้อมเต็มที่สำหรับการชกในรุ่นฟลายเวตแล้ว อนาคตข้างหน้าผมพร้อมพิสูจน์ฝีมือกับทุกคน ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใคร ผมพร้อมเผชิญหน้าหมด รวมไปถึง ก้องธรณี ด้วย เพราะการเจอกันของเราสองคนเป็นไฟต์ที่สนุกมาก ซึ่งถ้าเรายังโชว์ฟอร์มกันได้ดีแบบนี้ ในอนาคตผมเชื่อว่าแฟน ๆ จะได้เห็นภาคสามแน่นอน”
“หลังจากนี้ผมจะกลับไปพักฟื้นร่างกาย และถ้าหายเจ็บเมื่อไหร่ ผมจะกลับมาซ้อมทันที ขอบคุณทุกแรงใจจากแฟน ๆ ที่ส่งมาให้ในไฟต์นี้ แล้วเจอกันใหม่ในการกลับมาครั้งหน้า รับรองว่าต้องดีกว่าเดิมครับ”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com/th รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH