คิดผิดแล้ว! “จูลิโอ โลโบ” เมินถูกมองเป็นรอง พร้อมบู๊เดือด “วรพล” แจ้งเกิดใหม่
“จูลิโอ โลโบ” จอมบู๊พลังแกร่ง วัย 31 ปี จากบราซิล หวนคืนรายการในรอบเกือบ 2 ปี มั่นใจกู้ฟอร์มเก่งสยบความฮอตของ “วรพล ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” มวยซ้ายดุดัน วัย 23 ปี จากบุรีรัมย์ ที่พร้อมขยับขึ้นมาดวลกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) แบบเต็มพิกัด ในคู่เอกศึก ONE ลุมพินี 135 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก ในวันศุกร์ที่ 28 พ.ย.นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.
สำหรับ “จูลิโอ” ถือเป็นหนึ่งในนักมวยต่างชาติที่โลดแล่นบนสังเวียนในเมืองไทยมานาน โดยมีดีกรีแชมป์เวทีมวยอ้อมน้อยการันตีฝีมือ แต่เจ้าตัวยังไม่สามารถแจ้งเกิดในศึกนี้ได้ เมื่อเก็บชัยได้ครั้งเดียวจาก 3 ไฟต์ โดยเป็นการปิดเกมน็อกเอาต์ยก 3 “ก้าวหน้า สจ.โต้งปราจีน” ในศึก ONE ลุมพินี 42 เมื่อเดือน พ.ย. 66
ขณะที่ผลงานล่าสุด “จูลิโอ” โดนพลังหมัดของ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” เล่นงานจนไปไม่เป็น ทำให้เขาตกเป็นฝ่ายพ่ายทีเคโอเพียงยกแรก ในศึก ONE ลุมพินี 52 เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 67 ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญบนเส้นทางอาชีพนักมวย และเฝ้ารอโอกาสจะได้กลับมาแก้ตัวในรายการนี้อีกครั้ง
“หลังชกกับ กุหลาบดำ ผมมีไฟต์ตามมาอีกใน 1-2 เดือน แต่ตอนนั้นร่างกายผมไม่ดีเลย ลดน้ำหนักยาก ฟื้นตัวยาก และโดนน็อกบ่อย ผมจึงต้องหยุดพักยาวประมาณเกือบปี จนเคยมีช่วงหนึ่งที่คิดว่าคงไปต่อไม่ได้แล้ว”
“พอได้พักจริง ๆ ผมกลับคิดถึงการชกมาก แต่เพราะร่างกายยังไม่พร้อม โค้ชจึงให้พักและช่วยงานในยิมไปก่อน จากนั้นผมตัดสินใจกลับไปชกตามรายการระดับท้องถิ่นเพื่อทดสอบตัวเองว่าร่างกายยังไหวไหม เหมือนผมต้องไต่กลับขึ้นมาใหม่จากจุดเริ่มต้นเลยครับ”
แม้จะร้างห่างจากรายการนี้ไปนาน แต่จากการได้ชกต่อเนื่องในการแข่งขันระดับท้องถิ่น ทำให้ “จูลิโอ” มั่นใจว่าสภาพร่างกายได้ฟื้นฟูเต็มที่ พร้อมกลับมาโชว์ฝีมือแล้ว โดยเจ้าตัวยืนยันว่าจะได้เห็นฟอร์มการชกที่แข็งแกร่งอย่างที่เขาเคยฝากผลงานเอาไว้ก่อนหน้านี้แน่นอน
“ผมดีใจมากที่ได้กลับมาชกที่นี่อีกครั้ง ตอนนี้สภาพร่างกายผมดีขึ้นมากหลังจากได้กลับไปชกในการแข่งขันระดับท้องถิ่นทั่วภาคใต้ ไฟต์นี้ผมอยากทำให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์ที่สุด และพร้อมพิสูจน์ให้เห็นว่า ‘จูลิโอ โลโบ’ คือใครใน วัน แชมเปียนชิพ”

จูลิโอ มั่นใจเกมวงในไม่เป็นรอง
“จูลิโอ” ต้องเจอกับ “วรพล” ที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มยอดเยี่ยม โดยเก็บชัยชนะรวดใน 4 ไฟต์หลัง และเป็นการปราบคู่ชกต่างชาติได้ 3 ครั้ง ทั้งการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “อิลยาส มูซาเอฟ” จากรัสเซีย และย้ำแค้นคู่ปรับเก่า “โซเนอร์ เซน” เป็นครั้งที่ 2 จากการเจอกันในภาค 3
แม้หลายคนมองว่า “จูลิโอ” เป็นรองทั้งเรื่องการร้างเวทีและความสด แต่เขายืนยันว่าจะสามารถต่อกรได้อย่างถึงพริกถึงขิงกับ “วรพล” ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งในเรื่องการคลุกวงในจนนักชกต่างชาติหลายรายต่างขยาดไปตาม ๆ กัน
“หลายคนมองว่าไฟต์นี้ผมเป็นรอง ผมเองก็เห็นด้วย เพราะว่า วรพล ทั้งอายุน้อยกว่าและกำลังมาแรง เป็นเรื่องธรรมดาที่คนจะคิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ทุกคนจะต้องเปลี่ยนความคิด ถ้าเห็นผมขึ้นสู้บนสังเวียน”
“ผมได้ดู วรพล ชกมาบ้าง สไตล์เขาคล้ายกับผมคือ ชอบเดินเข้าหา ปล้ำวงใน กดดันไม่หยุด บอกเลยว่านี่ไม่ใช่งานง่ายสำหรับเขาแน่ ถ้าคิดจะมาเล่นวงในกับผมก็เข้าทางเลย เพราะผมได้เปรียบเรื่องรูปร่างและพละกำลัง ไฟต์นี้ต้องมันแน่นอน”
“ผมจะทำเต็มที่เหมือนไฟต์นี้เป็นไฟต์สุดท้ายของผม ผมมาที่นี่เพื่อหยุดสถิติ วรพล และเก็บชัยชนะเพื่อสร้างสถิติใหม่ของผมเองให้ได้”
ติดตาม “วรพล vs จูลิโอ” ศึก ONE ลุมพินี 135 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 28 พ.ย. นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.