สู้ถวายหัว! “โจ ณัฐวุฒิ” ลั่นแลกเดือด “โมฮัมหมัด” ยุติฝันร้ายพ่าย 3 ไฟต์ติด
“Smokin’ Jo” โจ ณัฐวุฒิ กำปั้นประสบการณ์แน่นวัย 36 ปี จากนครราชสีมา อันดับ 5 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ประกาศพร้อมทุ่มสุดตัว เปิดเกมแลกเดือดกับ “โมฮัมหมัด เซียซารานี” จอมบู๊ฟอร์มสด วัย 23 ปี จากอิหร่าน ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 137: ตะวันฉาย vs เมิงหยาง ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก ในวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค. นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.

จากนักมวยที่เคยมีโอกาสท้าชิงเข็มขัดมวยไทย ตอนนี้ “โจ ณัฐวุฒิ” กำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อฟอร์มสะดุดมา 3 ไฟต์ติด โดยล่าสุดเจ้าตัวที่เคยนั่งเก้าอี้เบอร์ 2 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ตกเป็นฝ่ายพ่ายทีเคโอยกแรก “บัมปารา คูยาเต” ตัวแทนจากฝรั่งเศส-มาลี ในศึก ONE 170 เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตกมารั้งท้ายอันดับ 5 ของแรงกิงรุ่นนี้ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงรอบปีที่ผ่านมา “โจ ณัฐวุฒิ” กลับไปใช้ชีวิตทำงานที่สหรัฐอเมริกาตามปกติ โดยปล่อยวางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนมวยไว้เบื้องหลัง พร้อมยืนยันชัดเจนว่ายังมีไฟในการต่อสู้เต็มเปี่ยมเช่นเดิม

“ไฟต์ล่าสุดที่แพ้ไม่ได้ทำให้ต้องหลบหายไปไหน แต่วางแผนชีวิตไว้ชัดเจน หลังชกเสร็จไม่ว่าชนะหรือแพ้ก็จะกลับไปทำงาน ทุกอย่างถูกจัดตารางไว้หมด ผลแพ้ชนะจึงไม่กระทบอะไร พองานเสร็จเมื่อไหร่ ผมก็พร้อมกลับมาชกได้ทันที”
“หลายคนอาจมองว่าผมหมดไฟ ไม่มีที่ยืนใน ONE หรือชกไม่ดีเหมือนเดิม แต่มันคือเรื่องปกติของชีวิต มีทั้งคนรักและคนไม่ชอบ แม้แต่นักกีฬาระดับโลกยังโดนวิจารณ์ ผมจึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะหน้าที่ของผมคือทำงาน ตั้งใจชก และเก็บเงิน ทุกไฟต์ผมทำเต็มที่เสมอ ส่วนผลแพ้ชนะจะออกมายังไง ผมมองว่ามันดีทั้งหมดครับ”

โจ เตรียมมาแลกโดยเฉพาะ
แม้จะร้างจากสังเวียนไปนาน แต่ “โจ ณัฐวุฒิ” ไม่มีปัญหาในการเตรียมตัว เพราะหมั่นดูแลร่างกายให้มีความพร้อมอยู่เสมอ เมื่อโอกาสได้ขึ้นชกมาถึงก็พร้อมตอบรับทันที โดยหวังแลกเดือดกับ “โมฮัมหมัด” เจ้าของฟอร์มฮอตชนะ 3 ไฟต์ติด ที่ตัดสินใจสลับมาชกมวยไทยอีกครั้ง ได้อย่างสนุกและประทับใจแฟนมวย
“ผมกลับมาอยู่ที่เมืองไทยได้ประมาณเดือนกว่าแล้ว การซ้อมถือว่าดีมาก ปกติผมจะซ้อมไปด้วยทำงานไปด้วย แต่ไฟต์นี้เป็นครั้งแรกที่โฟกัสซ้อมอย่างเดียว รู้สึกสนุกและร่างกายพร้อมเต็มที่แน่นอน ส่วนเรื่องอายุเยอะกว่าคู่ชกก็อาจมีผลบ้างแต่ไม่มาก เพราะตอนนี้ผมยังไม่ถึงช่วงโรยรา และชกแค่ 3 ยกด้วย”

“ไฟต์นี้ผมเจอกับ โมฮัมหมัด เขาเป็นนักมวยสายบู๊ดุดัน จุดเด่นคือหมัดหนัก ความอึด ความทน และความดุดันแบบเดินเข้าหาไม่ถอย โดนอาวุธแล้วยังยิ้ม ทำให้ไฟต์นี้รับรองว่าสนุกแน่นอน เขาเคยชนะนักมวยระดับอย่างสิทธิชัยมาแล้ว และผ่านการชกกับคู่ต่อสู้ฝีมือดีมาหลายคน ประสบการณ์สูง ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่อันตรายมากคนหนึ่ง”
ในวัยมุ่งสู่เลขสี่ “โจ ณัฐวุฒิ” ยังยืนกรานว่าตนยังมีแรงกระหายในการต่อสู้เหมือนเดิม โดยพร้อมกู้ฟอร์มเก่งฝ่าด่านแกร่งอย่าง “โมฮัมหมัด” เพื่อพิสูจน์ว่ายังมีฝีมือดีพอที่จะก้าวขึ้นไปท้าชิงบัลลังก์มวยไทยอีกครั้ง
“ไฟต์นี้ผมไม่ได้เตรียมมารับอาวุธ แต่หวังมาแลกกันตรง ๆ ผมถนัดหมัดก็ซ้อมหมัดมาเต็มที่ ซึ่งเขาเองก็หมัดหนัก คม และอันตรายไม่แพ้กัน ส่วนจุดอ่อนยังมองไม่ออก ขึ้นอยู่กับจังหวะบนเวทีมากกว่า ผมรู้ว่าเขามีลุ้นสัญญา แต่ขอยืนยันว่าไม่ยอมเป็นบันไดให้ง่าย ๆ แน่นอน ไฟต์นี้เตรียมมาบู๊เต็มที่ รับรองว่าสนุกแน่”
“ตอนนี้ผมอายุ 36 ปีแล้ว แต่สภาพร่างกายยังดีเหมือนเดิม และยังสนุกกับการชกอยู่ เป้าหมายคืออยากกลับไปชิงแชมป์อีกครั้ง ก่อนหน้านี้แพ้มา 3 ไฟต์ติด ถือว่าหลังชนฝา ครั้งนี้แพ้ไม่ได้แล้ว พร้อมสู้ถวายหัวครับ”
ศึก ONE ลุมพินี 137: ตะวันฉาย vs เมิงหยาง ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 19 ธ.ค.นี้ ส่วนบัตรเข้าชมในสนามจำหน่ายหมดแล้ว หากท่านใดที่ซื้อบัตรไม่ทัน สามารถรับชมถ่ายทอดสดทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
- Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.