“กุหลาบดำ” รับตื่นเวทีแรกในวัน แชมเปียนชิพ

“ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย โคจรมาพบกับคู่แข่งขันสุดสูสีในการเปิดตัวบนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ เมื่อวันศุกร์ที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ในศึก ONE: IMMORTAL TRIUMPH ที่ โฮจิมินห์ ซิตี้ ประเทศเวียดนาม

นักชกไทยสายเลือดสุรินทร์ ขึ้นสังเวียนเผชิญหน้าแชมป์โลก WPMF “The Panther” โบโบ แซกโก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนักชกสุดอันตรายของชุด วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ ที่น่าจับตา

แม้เจ้าตัวยอมรับว่าเจอด่านหินตั้งแต่นัดประเดิมสังเวียนที่ฝูเถาะ อินดอร์ สเตเดียม แต่ในที่สุดเขาก็สามารถกำชัยชนะอย่างไร้ข้อกังขากลับประเทศไทยได้สำเร็จ

กุหลาบดำ เปิดตัวด้วยขุมพลังหนุ่มและประสบการณ์มวยไทยระดับตัวพ่อ ในฐานะแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินีสองรุ่น พกสถิติบนผืนผ้าใบ ชนะ 60 แพ้ 10 เสมอ 5 แต่กับการขึ้นสังเวียนระดับโลกในต่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต เจ้าตัวยอมรับว่าน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก

“มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากสำหรับผม ผมตื่นเต้น ดีใจ และประหม่าด้วยครับ”

“คนดูในสนามเยอะมากๆ และส่งเสียงเชียร์ดัง ผมยังไม่คุ้นเคยกับการชกนอกบ้านสักเท่าไหร่ ทำให้ผมมีความกดดันเล็กน้อย และเป็นครั้งแรกในวันฯ ด้วย”

ความตื่นเต้นของ “ยอดมวย” จากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยปี 2017 ค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มจับทางคู่ชกชาวฝรั่งเศสได้ และเป็นฝ่ายควบคุมเกม

หมัดซ้ายทรงพลังถูกปล่อยออกไปปะทะเข้าที่ใบหน้า แซกโก อย่างจัง ถึงกลับไถลลงไปให้กรรมการนับแปดตั้งแต่ยกแรก ส่งให้ กุหลาบดำ ทำคะแนนนำไปก่อน

“หลังจากได้นับ ผมก็มั่นใจว่า ผมจัดการเขาได้อยู่หมัดแน่นอน ไม่ว่ายังไงผมจะชนะในไฟต์นี้แน่ๆ”

“พอเขาลุกขึ้นมาได้ ผมไม่ได้โฟกัสที่จะน็อกเขา แต่ต้องการจะโชว์ฝีมือ และเดินเกมให้รัดกุมต่อไป”

มันเป็นช่วงคาบเกี่ยวที่ศึกนี้อาจจบลงอย่างรวดเร็ว แต่แล้วทุกคนก็ต้องเซอร์ไพรส์เมื่อ แซกโก กลับพลิกสถานการณ์ขึ้นมาได้

นักชกจากปารีสเอาตัวรอดจากสถานการณ์สุ่มเสี่ยง และคืนฟอร์มในทันที โดยใช้ความสูงและช่วงชกที่ได้เปรียบมาเป็นตัวตั้ง

กุหลาบดำ จำต้องเดินเกมประชิดให้อยู่ในระยะที่ แซกโก ยากจะออกอาวุธให้ถูกเป้าหมาย และอาศัยจังหวะช่วงชิงการเตะขา ต่อยหมัด ซึ่งต้องใช้พลังมากถึงสองเท่าในการเอาชนะความได้เปรียบของ แซกโก จึงทำให้นักชกไทยเกิดอาการแผ่วในยกสุดท้าย

“หมัดเขาหนักมากครับ และเขาก็ปล้ำเป็นด้วย หลังจากหมดยกแรก เทรนเนอร์บอกให้ผมระวังอาวุธของเขาให้ดี”

“ช่วงยกสองผมโดนหมัดไปสองสามที แต่มันน่าแปลกที่ผมรู้สึกเกือบหมดแรงเอาดื้อๆ ผมคิดว่าการชก 3 ยก มันทำให้เราเหนื่อยกว่าชก 5 ยก เพราะเราแทบจะไม่มีเวลาพักเลย ต้องตื่นตัวตลอดและเดินเกมให้เร็ว ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุสำคัญ”

“ผมรู้ว่าผมชนะในยกแรก ยกที่สอง และก็นำอยู่นิดๆ ในยกสุดท้าย ซึ่งในยกนี้ผมยังเดินเกมอย่างรัดกุมเหมือนเดิม และพยายามคุมให้อยู่ในเกมของผม”

“ช่วงต้นยกสามผมคิดว่าผมได้ แต่ปลายๆ ยกเขาทำได้ดี ซึ่งผมไม่ได้กังวลอะไร เพราะรู้ว่าถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถเล่นงานผมได้ไปมากกว่านี้ ผมยังคงนำอยู่ และจะเป็นผู้ชนะ”