จากรุ่นสู่รุ่น เปิดตำนานเข็มขัด MMA รุ่นไลต์เวต จากปฐมบทจนถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่ ONE ก่อตั้งขึ้น กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นไลต์เวต (155–170 ป.) ถือเป็นหนึ่งในพิกัดที่ดุเดือดที่สุด เพราะเต็มไปด้วยเหล่านักสู้มากฝีมือจากทั่วโลกมากมายเข้ามาไล่ล่าตำแหน่งแชมป์โลกที่หมายปอง และไม่น่าแปลกใจที่เข็มขัดเส้นนี้จึงมักเปลี่ยนมืออยู่บ่อยครั้ง
แน่นอนว่าที่ผ่านมาไม่มีราชันคนใดที่ครองบัลลังก์ได้ยาวนานโดยไร้ผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่ง ในศึก ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่จะจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย.นี้ ณ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น “คริสเตียน ลี” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นไลต์เวต และ รุ่นเวลเตอร์เวต (170-185 ป.) เตรียมขึ้นป้องกันตำแหน่งรุ่นไลต์เวตกับคู่ปรับเก่า “อาลิเบก ราซูลอฟ” และนี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการย้อนดูว่า ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เข็มขัดเส้นนี้เคยผ่านมือใครบ้าง
ยุคบุกเบิกสุดดุเดือด
ปฐมบทเริ่มขึ้นในศึก ONE: RISE OF KINGS เมื่อเดือน ต.ค. 55 “โกเทตสึ โบกุ” นักชกดีกรีแชมป์จากญี่ปุ่น กลายเป็นราชันคนแรก หลังเอาชนะทีเคโอ “โซโรบาเบล โมเรยรา” ได้ในยกสาม แต่เข็มขัดเส้นนี้อยู่กับเขาได้เพียง 181 วัน เท่านั้น เมื่อไฟต์ต่อมาเขาพ่ายซับมิชชันให้กับ “ชินยะ อาโอกิ” ในศึก ONE: Kings and Champions เดือน เม.ย. 56
“ชินยะ” ผงาดขึ้นเป็นราชันคนใหม่และนั่งครองบัลลังก์นานถึง 1,316 วัน โดยปราบผู้ท้าชิงอย่าง “คามาล ชาโลรัส” และ “โกจิ อันโดะ” ก่อนจะมาพ่ายทีเคโอและเสียตำแหน่งให้กับ “เอดูอาร์ด โฟลายัง” ยอดฝีมือจากแดนตากาล็อก ฟิลิปปินส์ ในศึก ONE: DEFENDING HONOR เมื่อเดือน พ.ย. 59
เส้นทางแชมป์โลกสมัยแรกของ “เอดูอาร์ด” รักษาเข็มขัดไว้ได้ 363 วัน ก่อนพ่ายน็อกในวันที่ 364 ให้กับ “มาร์ติน เหงียน” ผู้ท้าชิงดีกรีเจ้าของแชมป์โลก ONE MMA รุ่นเฟเธอร์เวต (145–155 ป.) ที่ข้ามรุ่นขึ้นมาท้าชน และกลายเป็นนักสู้คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ครองแชมป์โลกสองรุ่นของ ONE ในเวลาเดียวกัน ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตาม “มาร์ติน” ตัดสินใจสละบัลลังก์รุ่นไลต์เวตจากปัญหาอาการบาดเจ็บ และหันไปโฟกัสกับการป้องกันแชมป์ในรุ่นเฟเธอร์เวตแทน ทำให้ ONE ต้องจัดไฟต์ชิงแชมป์ที่ว่างในศึก ONE: CONQUEST OF CHAMPIONS เดือน พ.ย. 61 และเป็น “เอดูอาร์ด” ที่เอาชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ “อาเมียร์ ข่าน” หวนคืนสู่บัลลังก์ที่เคยครองอีกครั้ง
“เอดูอาร์ด” ครองเข็มขัดรอบสองได้เพียง 128 วันเท่านั้น ก่อนถูกคู่ปรับเก่าอย่าง “ชินยะ” จับใส่ท่าล็อกคอและแขน อาร์ม ไทรแองเกิล (Arm Triangle) จนพ่ายซับมิชชันตั้งแต่ยกแรก ในศึก ONE: A NEW ERA เดือน มี.ค. 62 ทำให้บัลลังก์กลับมาอยู่ในมือของซูเปอร์สตาร์ชาวญี่ปุ่นอีกครั้ง
ยุค คริสเตียน ลี เถลิงอำนาจ
ในศึก ONE: ENTER THE DRAGON เดือน พ.ค. 62 “ชินยะ” ขึ้นป้องกันตำแหน่งกับ “คริสเตียน ลี” ดาวรุ่งวัย 20 ปี ในขณะนั้น ซึ่งมีดีกรีเป็นอดีตผู้ท้าชิงจากรุ่นเฟเธอร์เวต และขยับขึ้นมาประเดิมรุ่นไลต์เวตเป็นครั้งแรก เกมการชกช่วงแรก “ชินยะ” เกือบปิดเกมได้ด้วยท่าล็อกแขน อาร์มบาร์ (Armbar) แต่ “คริสเตียน” สามารถแก้สถานการณ์หลุดออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ก่อนรัวอาวุธปิดเกมเอาชนะทีเคโอในช่วงต้นยกสอง สร้างประวัติศาสตร์นั่งแท่นเป็นแชมป์โลก MMA อายุน้อยที่สุดของ ONE ในเวลานั้น
ปลายปีเดียวกัน “คริสเตียน” เดินหน้าคว้าเข็มขัดสีเงินจากการแข่งขัน ONE MMA เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นไลต์เวต มาได้อีกเส้น ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ในฐานะราชันของรุ่น ก่อนจะเดินหน้าโชว์ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง ไล่ปิดเกมเอาชนะทีเคโอ “ยูรี ลาปิคัส” และ “ทิโมเฟย์ นาสติวคิน” ป้องกันตำแหน่งไว้ได้อีกสองครั้ง
อ็อก เร ยุน ช็อกโลก นั่งบัลลังก์ราชันคนใหม่
ต่อมาทั้งโลกกลับต้องตะลึงเมื่อราชันผู้ยิ่งใหญ่อย่าง “คริสเตียน” ต้องพ่ายคะแนนเอกฉันท์ให้ผู้ท้าชิงม้ามืดฟอร์มแรงจากเกาหลีใต้ “อ็อก เร ยุน” ในศึก ONE: Revolution เดือน ก.ย. 64 ยุติเส้นทางแชมป์สมัยแรกไว้ที่ 861 วัน ซึ่งเป็นไฟต์ที่สร้างความเจ็บใจและผิดหวังให้กับ “คริสเตียน” อย่างมาก
11 เดือนผ่านไป ทั้งคู่ได้รีแมตช์กันอีกครั้งในศึก ONE 160 เดือน ส.ค. 65 โดยคราวนี้ “คริสเตียน” เดินหน้าบู๊ไม่ยั้ง ก่อนปิดเกมเอาชนะทีเคโอตั้งแต่ต้นยกสอง คว้าเข็มขัดคืนได้สำเร็จเป็นแชมป์โลกรอบที่สอง
หลังจากปราบผู้ท้าชิงมากหน้าหลายตาในรุ่นไลต์เวต “คริสเตียน” ตัดสินใจท้าทายศักยภาพของตัวเองด้วยการขยับรุ่นขึ้นไปคว้าเข็มขัด ONE MMA รุ่นเวลเตอร์เวต (170–185 ป.) ในศึก ONE Fight Night 4 เดือน พ.ย.65 กลายเป็นแชมป์โลกสองรุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
ภารกิจที่ยังค้างคา
หลังนั่งบัลลังก์สองรุ่น “คริสเตียน” เผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต จากการจากไปของ “วิกตอเรีย ลี” น้องสาวคนที่สามของตระกูล “ลี” เขาจึงตัดสินใจพักจากสังเวียนเพื่อทำใจนานถึง 2 ปี ก่อนหวนกลับมาป้องกันเข็มขัดรุ่นไลต์เวต ในศึก ONE Fight Night 26 เดือน ธ.ค. 67 โดยพบกับ “อาลิเบก” ผู้ท้าชิงเจ้าของสถิติชนะรวด 14 ไฟต์ในระดับอาชีพ
เกมการชกวันนั้นเต็มไปด้วยความดุเดือด ทั้งคู่เปิดเกมแลกอาวุธกันอย่างไม่ลดละ ทว่าช่วงปลายยกสองเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เมื่อ “คริสเตียน” พลาดทำนิ้วจิ้มตาซ้ายของ “อาลิเบก” จนบาดเจ็บและไม่สามารถแข่งขันต่อได้ เนื่องจากเกมการชกดำเนินไปยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของการแข่งขัน กรรมการจึงตัดสินให้ไฟต์นี้จบลงแบบ “ไม่มีผลการแข่งขัน (No Contest)” ส่งผลให้แชมป์โลกยังคงอยู่กับ “คริสเตียน” ต่อไป
จากภาคแรกเมื่อเกือบหนึ่งปีก่อนที่ยังค้างคาใจกันทั้งสองฝ่าย รีแมตช์ครั้งนี้การันตีความดุเดือด แฟน ๆ ต้องรอลุ้นกันว่า “คริสเตียน” จะรักษาเข็มขัดไว้ได้อีกครั้ง หรือ “อาลิเบก” จะก้าวขึ้นเป็นราชันคนใหม่ วันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย.นี้ ห้ามพลาดชม!
ติดตาม “คริสเตียน vs อาลิเบก II” ในศึก ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ถ่ายทอดสดจากสนาม อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. 68 จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง ONEFC.com/one173/ และติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH
