ยิ่งกว่านิยาย! ย้อนชีวิต “เสือคิม” จากติดลบสู่เวทีประวัติศาสตร์ ONE 173
ย้อนดูเส้นทางชีวิตสุดพลิกผันของ “เสือคิม สจ.โต้งปราจีน” กำปั้นจอมดุจากจันทบุรี จากอดีตที่เคยหันหลังให้วงการมวย สู่วันนี้ที่กลายเป็นฮีโรผู้สร้างแรงบันดาลใจไปทั่วโลก และกำลังจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของศึกใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ ด้วยการขึ้นชกกับ “เจก พีค็อก” มวยใจเกินร้อยตัวแทนสหราชอาณาจักร-แคนาดา ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในศึก ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย.นี้ ณ สนาม อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มคู่แรกเวลา 11.00 น.
จากวันที่ชีวิตเคยมืดมนจนแทบไม่เหลือหนทางเดินต่อ มาถึงวันนี้ “เสือคิม” ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ถ้าหัวใจยังบอกให้สู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้พื้นที่แห่งโอกาสอย่าง ONE ช่วยพลิกชีวิตให้กลับมาสดใสยิ่งกว่าที่เคย โดย “เสือคิม” ระเบิดฟอร์มพิชิตโบนัส 3.5 แสนบาท 2 ครั้ง และดับเบิลโบนัส 7 แสนบาทอีก 2 ครั้ง (ไม่รวมค่าตัว) และคว้าสัญญา ONE ฉบับที่ 26 ของรายการมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่
และวันนี้ เราขอพาทุกท่านมาย้อนดูเส้นทางชีวิตจริงสุดดรามายิ่งกว่านิยายของ “เสือคิม” ก่อนที่เขาจะก้าวเท้าขึ้นสังเวียนในศึกใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศญี่ปุ่นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
โด่งดังทั่วประเทศ
ชีวิตนักมวยไทยของ “เสือคิม” ขึ้นสู่ยุครุ่งโรจน์อย่างรวดเร็ว หลังพัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น จนสร้างชื่อเสียงโด่งดังทั่วประเทศจากการคว้าแชมป์มวยไทย 7 สี, แชมป์ประเทศไทย และ แชมป์ลุมพินี ถึง 3 รุ่น มาครอง อีกทั้งเคยยังได้รับโอกาสให้บินไปชกถึงประเทศญี่ปุ่นและมีกลุ่มแฟนคลับติดตามมากมาย
แขวนนวมช็อกวงการ
อย่างไรก็ตาม ช่วงกลางปี 2563 “เสือคิม” ได้สร้างความตกตะลึงให้กับวงการมวยด้วยการประกาศแขวนนวมทั้งที่ยังอยู่ในช่วงพีกบนเส้นทางอาชีพ เนื่องจากไม่สามารถทนรับแรงกดดันจากกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรงของแฟนมวยที่ถาโถมเข้ามา ยามต้องเผชิญความพ่ายแพ้ ก่อนจะตัดสินใจหันไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบทบาทพ่อค้าขายทุเรียน ทว่าธุรกิจกลับไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่หวัง จนทำให้เงินทองที่สะสมมาจากการชกมวยค่อย ๆ ร่อยหรอ
กลับมาเพราะ “บอสชาตรี”
ช่วงกลางปี 2566 คือช่วงเวลาที่ชีวิตของ “เสือคิม” ดูเหมือนจะมืดมนที่สุดจากมรสุมชีวิตที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกันหลายเรื่อง แต่ในความมืดนั้นกลับมีแสงแห่งโอกาสส่องเข้ามา เมื่อบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ได้ประสานให้ “เสี่ยแขก” สมชาย เทศรุ่งเรือง หัวหน้าค่ายพีเค.แสนชัย ช่วยตาม “เสือคิม” กลับมาโลดแล่นบนสังเวียนอีกครั้งในรายการ ONE ลุมพินี โดยหวังให้ “เสือคิม” เป็นตัวแทนของคนที่เคยตัดสินใจผิดพลาด แต่กล้าที่จะฮึดกลับมาสู้ชีวิตจนประสบความสำเร็จอีกครั้ง และใช้เรื่องราวนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก
สู้สุดใจคว้าสัญญา ONE มาครอง
“เสือคิม” กลับมาขึ้นชกไฟต์แรกในรอบเกือบ 4 ปี ในศึก ONE ลุมพินี 26 เมื่อเดือน ก.ค. 66 ซึ่งเกมการชกในวันนั้น “เสือคิม” ได้แสดงแววตาความมุ่งมั่นให้แฟน ๆ ตลอดทุกวินาทีบนสังเวียน แต่เพราะการร้างสังเวียนไปนาน จึงทำให้ “เสือคิม” ที่พยายามสู้สุดใจต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายน็อกยก 2 ต่อ “คิริลล์ โคมูทอฟ” จากรัสเซีย ไปอย่างน่าเสียดาย
หลังจบเกม “เสือคิม” ที่โชว์ความใจสู้อย่างถึงที่สุดได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามจากแฟนมวยทั่วประเทศ ผิดจากอดีตที่เขาเคยถูกวิจารณ์ในแง่ลบอย่างรุนแรง จนทำให้เขามีกำลังใจฮึดกลับไปฝึกซ้อมพัฒนาตัวเองอย่างหนัก กระทั่ง 2 เดือนต่อมาในศึก ONE ลุมพินี 34 “เสือคิม” สามารถเรียกเสียงเฮจากแฟนมวยได้สำเร็จ หลังโชว์เพลงศอกน็อก “ซามาน อาสซูริ” จากอิหร่าน ตั้งแต่ยกแรก พร้อมรับดับเบิลโบนัส 7 แสนบาท จากบิ๊กบอส “ชาตรี” เข้ากระเป๋าอย่างสุดเซอร์ไพรส์
แม้ไฟต์ต่อมาในศึก ONE ลุมพินี 47 เมื่อเดือน ม.ค.67 “เสือคิม” จะสะดุดพ่ายน็อกอีกครั้งจากพิษสงหมัดรัสเซีย ของ “อเล็กเซย์ บาลีโก” ในยกสุดท้าย แต่หลังจากนั้น “เสือคิม” ที่สภาพร่างกายเริ่มเข้าที่ก็สามารถคืนร่างเสือร้ายเมืองจันท์ ได้สำเร็จ ด้วยการเผด็จศึกคู่ชกทั้งไทยและต่างชาติไปถึง 3 ราย จากชัยชนะที่คว้าได้ใน 4 ไฟต์ต่อมา กระทั่งสามารถคว้าสัญญา ONE ฉบับที่ 26 ของรายการมาครองได้สำเร็จในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
เปิดตัวระดับโลกประทับใจคนดู
ไฟต์ล่าสุด “เสือคิม” ขึ้นชกในฐานะนักกีฬา ONE เป็นครั้งแรก โดยเปิดตัวบนเวทีรายการใหญ่ในศึก ONE Fight Night 34 เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา และยังทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ หลังโชว์เลือดนักสู้เปิดหน้าแลกเดือดแบบไม่กลัวความเจ็บปวด จนสามารถพลิกเอาชนะ “ซาเฟอร์ ซายิก” จากตุรกี ไปได้แบบสุดมันด้วยคะแนนเอกฉันท์
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของศึกใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์
ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมใน 5 ไฟต์หลังสุด และสไตล์การชกสุดเดือดจนเข้าไปนั่งอยู่ในใจของแฟนมวยทั่วโลก ทำให้ “เสือคิม” ได้โอกาสครั้งสำคัญให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของศึก ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ซึ่งถือเป็นศึกใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ เพราะมีการชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE จัดเต็มถึง 7 คู่ในอีเวนต์เดียว และอัดแน่นไปด้วยนักกีฬาการต่อสู้ระดับซูเปอร์สตาร์ทั้งรายการ
คู่ชกในไฟต์นี้ของ “เสือคิม” คือ “เจก พีค็อก” นักชกจอมบู๊ดีกรีแชมป์ Road to ONE แคนาดา ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกผ่านการต่อสู้ด้วยแขนซ้ายที่สมบูรณ์เพียงข้างเดียวตั้งแต่กำเนิด และสามารถทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งด้วยการคว้าชัยชนะตลอดการชกระดับอาชีพมากถึง 14 จาก 15 ไฟต์ และเก็บชัยชนะมาแล้ว 2 ไฟต์รวดบนเวทีของ ONE
ไฟต์นี้ “เสือคิม” ที่จะได้กลับไปขึ้นชกที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งในรอบกว่า 5 ปี จะสามารถสานต่อฟอร์มร้อนด้วยการปราบ “เจก” และเก็บชัยชนะไฟต์ที่ 6 ติดต่อกันมาครองได้หรือไม่ แฟนมวยทั่วประเทศต้องร่วมส่งแรงใจเชียร์ไปพร้อมกัน!
ติดตาม “เสือคิม vs เจก” ศึก ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ถ่ายทอดสดจากสนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. 68 จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง ONEFC.com/one173/ และติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH
