องค์บากคือแรงดลใจ! คุ้ยประวัติ “สตีเฟน” นักสู้เจ้าของสัญญา ONE ฉบับที่ 33
พาไปย้อนดูเส้นทางชีวิตของ “สตีเฟน เออร์วิน” จอมบู๊หนุ่ม วัย 25 ปี จากสกอตแลนด์ ผู้ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ไทยชื่อดังเรื่อง “องค์บาก” และความสำเร็จของเพื่อนรักร่วมชาติ “นิโค คาร์ริลโล” จนก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิตนักชกอาชีพได้อย่างน่าประทับใจด้วยการคว้าสัญญา ONE มูลค่า 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท) มาครองเป็นคนที่ 33 ของรายการ ONE ลุมพินี
ในศึก ONE ลุมพินี 128 เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา “สตีเฟน” ซึ่งปราบนักมวยชาวไทยมา 6 จาก 7 รายก่อนหน้านี้ ถูกประกบให้มาพิสูจน์ฝีมือกับ “แรมบ๊อง ส.เถระพัฒน์” คู่ชกจอมแกร่งจากลำพูน ผู้เป็นเจ้าของสถิติน็อกเร็วสุดบนเวที ONE ลุมพินี ด้วยเวลาเพียง 15 วินาที ที่กำลังกระหายชัยชนะอย่างแรงกล้าหลังสะดุดแพ้มาในไฟต์ล่าสุด
เกมการชกในไฟต์นี้จบลงด้วยเวลาเพียง 2:46 นาทีของยกแรกเท่านั้น หลัง “สตีเฟน” ตาไวเห็น “แรมบ๊อง” การ์ดตกจึงไม่รอช้าหวดก้านคอนักชกไทยด้วยแข้งขวาจนถึงกับร่วงลงไปกองหมดสภาพ ปิดเกมด้วยน็อกเอาต์ไปอย่างสวยหรูพร้อมรับโบนัส 350,000 บาท มาครองเป็นครั้งที่ 3

ชัยชนะในไฟต์นี้ส่งให้ “สตีเฟน” เพิ่มสถิติชนะเป็นครั้งที่ 7 จากการขึ้นชกทั้งหมด 8 ไฟต์ในกติกามวยไทยบนเวที ONE ลุมพินี และที่สำคัญยังเป็นการคว้าชัยแบบไม่ครบยกมากถึง 4 ครั้งด้วยกัน
จากผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าว ทำให้บิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ตัดสินใจมอบสัญญา ONE ให้เป็นของรางวัลสุดเซอร์ไพรส์แก่ “สตีเฟน” ทันที และทำให้เขากลายเป็นนักชกคนที่ 33 จากเวที ONE ลุมพินี ที่ได้เลื่อนชั้นเป็นนักกีฬาภายใต้องค์กรศิลปะการต่อสู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ
ฝึกมวยไทยเพราะองค์บาก
“สตีเฟน” เกิดและเติบโตในประเทศสกอตแลนด์ โดยจุดเริ่มต้นสู่การเป็นนักมวยไทยของเขาเริ่มขึ้นตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ เมื่อคุณพ่อพาไปชมภาพยนตร์เรื่อง “องค์บาก” ซึ่งภาพของศิลปะแม่ไม้มวยไทยบนจอภาพยนตร์ได้จุดประกายให้เขาหลงใหลในกีฬาชนิดนี้ถึงขั้นที่วันต่อมาเขาตัดสินใจเริ่มเข้ายิมฝึกซ้อมมวยไทยทันที ก่อนที่ 2 ปีต่อมาเขาจะก้าวขึ้นสู่เวทีการแข่งขันในระดับสมัครและออกเดินสายเก็บเกี่ยวประสบการณ์แข่งขันมากกว่า 100 ไฟต์ทั่วยุโรป
พบเพื่อนรักนักล่าฝันเดียวกัน
เมื่ออายุ 15 ปี “สตีเฟน” เริ่มรู้จักกับ “นิโค คาร์ริลโล” นักมวยหนุ่มเพื่อนร่วมชาติ ผ่านเพื่อนในกลุ่มเดียวกันที่โรงเรียน แม้ตอนนั้นทั้งคู่จะฝึกซ้อมกันอยู่คนละที่ แต่มีโอกาสได้มาสนิทกันเมื่อ “สตีเฟน” ขึ้นชกกับเพื่อนร่วมทีมของ “นิโค” ซึ่งหลังจากไฟต์นั้น ทั้งคู่ได้ออกเดินทางมาประเทศไทยด้วยกัน โดยมี “โค้ชเจพี กัลลาเกอร์” (ปัจจุบันเป็นเทรนเนอร์คู่ใจให้ทั้ง 2 คน) เป็นคนกลางพามาฝึกซ้อมร่วมกันที่ค่ายศศิประภายิม ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพ และการเติบโตบนเส้นทางมวยไทยของพวกเขาทั้ง 3 คน
ช่างไฟฟ้าผู้มีฝันบนสังเวียน
หลังกลับจากประเทศไทย “สตีเฟน” ตัดสินใจเทิร์นโปรเข้าสู่เส้นทางนักมวยไทยอาชีพเต็มตัว พร้อมทำงานเป็นช่างไฟฟ้าไปด้วยเพื่อหาเลี้ยงชีพควบคู่ไปกับการไล่ตามความฝันบนสังเวียน กระทั่งการถือกำเนิดขึ้นของรายการ ONE ลุมพินี ทำให้ “สตีเฟน” และ “นิโค” ได้รับโอกาสสำคัญให้ควงแขนกันเข้ามาพิสูจน์ฝีมือบนสังเวียนแห่งนี้
คว้าสัญญา ONE ตามรอยเพื่อนรัก
“นิโค” เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 13 เมื่อเดือน เม.ย.66 และใช้เวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้นในการคว้าสัญญา ONE ฉบับที่ 4 ของรายการมาครอง ซึ่งหลังจากที่เพื่อนรักประสบความสำเร็จได้เพียง 1 สัปดาห์ “สตีเฟน” ก็ได้รับโอกาสเข้ามาปล่อยของในศึก ONE ลุมพินี 23 เมื่อเดือน มิ.ย. 66 และประเดิมผลงานได้อย่างร้อนแรงด้วยการเก็บชัยชนะไม่ครบยก 2 ไฟต์รวด
แม้จะสะดุดพ่ายในไฟต์ที่ 3 แต่เขาไม่ย่อท้อ กลับไปฝึกซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิม ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเดินตามรอยเพื่อนรักสู่เวทีระดับโลกให้ได้ ซึ่งความพยายามของเขาไม่สูญเปล่า เพราะสามารถกลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเก็บชัยชนะได้ถึง 5 ไฟต์ติดต่อกันจนได้รับสัญญานักกีฬา ONE มาครองอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางความยินดีของ “นิโค” และ “โค้ชเจพี” 2 เพื่อนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาอย่างยาวนาน

“ขอบคุณบอสชาตรีมากครับ ไม่ใช่แค่เงินโบนัสหรือโอกาสที่มอบให้นะครับ แต่เพราะ ONE ช่วยสานต่อความฝันของผมมาตลอด เมื่อหลายปีก่อน ผมไม่เคยคิดว่าจะหาเงินจากมวยไทยได้มากขนาดนี้ และเป็นเพราะคุณชาตรีที่ทำให้ความฝันของผมเป็นจริงได้ จากนี้ผมตั้งใจจะกวาดให้หมดทั้งรุ่นสตรอว์เวต ผมจะเป็นราชันของรุ่นนี้ให้ได้ คอยดูเลย!”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH