ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ของ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ”

แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต “Tweety” อิเลียส เอ็นนาฮาชิ คือหนึ่งในนักสู้ที่แจ้งเกิดอย่างเปรี้ยงปร้างที่สุดคนหนึ่ง ของ วัน แชมเปียนชิพ ในรอบปี 2561

จอมหมัดชาวดัตช์-โมร็อกโก สร้างชื่อใน ONE ซูเปอร์ ซีรีส์ ทันที หลังโค่น “The Baby Shark” เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี แบบไม่ครบยก คว้าแชมป์โลกมาครองในศึก ONE: DREAMS OF GOLD ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

จากนั้นนักสู้หนุ่มวัย 23 ปี ก็คืนสังเวียนในอีก 3 เดือนต่อมา เพื่อป้องกันบัลลังก์จากผู้ท้าชิง อดีตคู่ปรับเก่าชาวจีน “Metal Storm” หวัง เวินเฟง ในฐานะคู่เอกของศึก ONE: AGE OF DRAGONS ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และเอาชนะไปได้อย่างสูสี

ความสำเร็จอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนของ เอ็นนาฮาชิ ได้เปลี่ยนชีวิตเขาครั้งใหญ่ และดูเหมือนเขาได้เตรียมรับมือกับศึกหนักที่จะถาโถมเข้ามาในปีต่อๆ ไปไว้แล้ว

“ปี 2019 ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม กับการได้โอกาสแสดงความสามารถในเวทีระดับโลก ช่วงต้นปีผมอาจจะไม่ได้ขึ้นสังเวียนบ่อยนัก เพราะสถานการณ์ในตอนนั้นดูไม่เอื้อกับผมเท่าไหร่ และนั่นทำให้อาชีพของผมดูไม่มั่นคงเอาเสียเลย”

“แต่เมื่อมาอยู่กับ วัน แชมเปียนชิพ ผมได้ใช้ชีวิตนักสู้อย่างมั่นคง เพราะที่นี่ให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเองว่ามีดีแค่ไหนในเวทีระดับโลก”

---

• “เพชรดำ” เปิดใจที่แรก หลังเสียแชมป์โลกให้ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ”
• “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” ชูการน็อก “เพชรดำ” คือชัยชนะระดับโลก
• ศิลปะการต่อสู้นำ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” ผ่านพ้นปัญหาและมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จ

---

ปีแรกในองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อิเลียส ยกให้ไฟต์เปิดตัวคือช่วงเวลาที่เขาโปรดปราน กับการกระชากเข็มขัดแชมป์โลกจาก เพชรดำ ซึ่งเป็นเจ้าถิ่น

“ไฮไลต์ของผม แน่นอน คือไฟต์แรกที่ได้สู้ในเวทีใหญ่ และได้เข็มขัดมาพาดบ่า ทุกอย่างมันใหม่มากสำหรับผม ก็ยอมรับว่ามีความกังวลอยู่บ้าง อะไรต่างๆ มันวนเวียนในหัวเต็มไปหมด แต่ที่สุดแล้วมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี และผมชอบที่จะขึ้นเวทีในประเทศไทยนะ

“ตอนนั้นผมรู้สึกมั่นคงมาก ผมไม่เคยรู้สึกดีกับการเตรียมตัวในไฟต์ไหน เหมือนอย่างไฟต์นั้นมาก่อน ทุกอย่างเป็นไปอย่างเพอร์เฟกต์”

หลังไฟต์เปิดตัว แฟนๆ ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อ อิเลียส หวนคืนสังเวียนเพื่อทำศึกชี้ขาดความเป็นคู่ปรับกับ หวัง เวินเฟง และเหมือนเมื่อ 2 ปีก่อนที่เจ้าตัวตัดสินใจบุกไปเยือนถึงบ้านเกิดของคู่ต่อสู้ และคว้าชัยชนะมาได้

“ในไฟต์กับหวัง ผมพอจะปรับตัวเข้ากับบรรยากาศความยิ่งใหญ่ของ ONE ได้แล้ว จึงรับมือกับสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการเตรียมเปิดตัว และอีกหลายอย่างที่ผมเริ่มคุ้นเคย แถมคู่แข่งตรงหน้าก็เคยชกกันมาแล้ว 2 ครั้ง ดังนั้นตรงนี้คือความแตกต่าง”

“ผมก็ไม่ได้โชว์อะไรทุกอย่างบนเวทีอย่างที่ตั้งใจ ถึงจะทำได้ตามเป้าหมาย ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ แต่ผมก็อยากจะแสดงสิ่งที่ผมสามารถทำได้ให้มากขึ้น และสัญญาว่าจะทำมันในไฟต์ต่อๆ ไป”

อิเลียส รู้สึกดีกับการเปิดตัวในเวทีระดับโลกอย่าง ONE แต่เขายืนยันว่าจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ ยังมีนักสู้หลายรายที่พร้อมก้าวขึ้นมาท้าชิง เพื่อกระชากเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวตจากอ้อมอกเขา

ด้วยเหตุนี้ “Tweety” จึงยังต้องเดินหน้าพัฒนาตัวเองต่อไปสำหรับปีแห่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในฐานะนักกีฬา ONE ซูเปอร์ ซีรีส์ เพื่อเตรียมรับมือกับทุกคนที่จะเข้ามาท้าชิงในปี 2563

“การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมในปีนี้ คือการได้เข้ามาอยู่กับองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเมื่อถึงตรงนี้ในช่วงส่งท้ายปี ผมรู้สึกว่ายังมีสิ่งที่พร้อมแสดงให้ทุกคนได้เห็นอีกมาก”

“โฟกัสของผม คือการทุ่มสุดตัวในทุกเรื่องให้ดีขึ้น แน่นอนว่า ONE จะส่งคู่ชกที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มาให้กับผม ดังนั้นจากนี้ไป ผมต้องดีขึ้นกว่าเดิม”

อ่านเพิ่มเติม: คัดมาแล้ว! 5 น็อกเอาต์เจ๋งสุดในการต่อสู้แบบผสมผสาน ไตรมาสสุดท้ายของปี’62

เตรียมรับศักราชใหม่กับศึก ONE: A NEW TOMORROW | อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี | 10 มกราคม 2563 | 17.00 น. ตามเวลาไทย | ซื้อบัตรเข้าชม: ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ออกอากาศเวลา 22.30 น.