วันนี้ที่รอคอยของ “เคียมเรียน อับบาซอฟ” กับการดวลเดือด “เซบาซเตียน คาเดสตัม”

“Brazen” เคียมเรียน อับบาซอฟ เฝ้ารอที่จะขึ้นชิงบัลลังก์แชมป์โลก ONE รุ่นเวลเตอร์เวต มานานนับปี และโอกาสนั้นก็มาถึงในที่สุด

นักสู้ชาวคีร์กีซสถาน คว้าตั๋วผู้ท้าชิงด้วยชัยชนะอย่างต่อเนื่องเหนือ “Alligator” อากิลัน ทานี เมื่อเดือนธันวาคม และชนะน็อกซูเปอร์สตาร์ชาวญี่ปุ่น “Thunder” ยูชิน โอกามิ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

การรอคอยอย่างเนินนานกำลังจะสิ้นสุดลง โดยวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ เมื่อเขาจะได้ขึ้นชิงเข็มขัดแชมป์โลกจาก “The Bandit” เซบาซเตียน คาเดสตัม ในฐานะคู่เอกของการแข่งขัน ONE: DAWN OF VALOR ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

ไฟต์นี้ถือเป็นการต่อสู้สุดคลาสสิก เมื่อเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกชาวสวีเดนเชี่ยวชาญการต่อสู้แบบมวยไทย ขณะที่ผู้ท้าชิงเก่งกาจในเรื่องของการปล้ำและเกมนอนสู้ ทว่าหากดูจากทั้งสองไฟต์ที่ผ่านมา อับบาซอฟ ก็มีเกมยืนสู้ที่ทรงพลัง และสามารถปิดเกมได้ก่อนครบยกด้วย

ผู้ท้าชิงวัย 26 ปี เผยว่า ไม่ว่าการต่อสู้จะออกมาในรูปแบบใด เขาจะพร้อมเสมอ ไม่กลัวที่จะผลักดันตัวเอง และไม่หวั่นเกรงคู่ต่อสู้ 

ONE: คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่าจะได้ขึ้นชิงแชมป์โลก

เคียมเรียน อับบาซอฟ: ตอนที่ผู้จัดการโทรหาผม ผมกำลังทานอาหารเย็นกับครอบครัวอยู่ที่บ้าน ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ไฟต์ชิงแชมป์โลกเหรอ ข่าวดีจริงๆ! แต่พูดตรงๆ เลยนะ ผมไม่เห็นว่าจะมีใครแข็งแกร่งพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ ดังนั้น ผมก็พอรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงในไม่ช้า

ONE: มันมีความหมายอย่างไรกับการได้เป็นคู่เอกครั้งแรกและเป็นไฟต์ชิงแชมป์โลกด้วย 

เคียมเรียน อับบาซอฟ: มันไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ เพราะทุกไฟต์ในอาชีพของผมสำคัญหมด และแต่ละค่ายก็มีดีของตัวเอง แต่แน่นอนว่า การได้รับเชิญให้เป็นคู่เอก มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษ

มันหมายความว่าคุณเป็นนักสู้ชั้นนำของวงการ ถ้าคุณชนะ คุณก็ไม่จำเป็นต้องไต่เต้าขึ้นไปอีก แค่รอเวลาป้องกันแชมป์และรักษาตำแหน่งสูงสุดของคุณให้ได้ 

ONE: คุณมีการปรับแผนการซ้อมสำหรับไฟต์นี้อย่างไร

เคียมเรียน อับบาซอฟ: การฝึกซ้อมของผมต่างออกไปจากเดิม เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมต้องสู้ถึง 5 ยก ผมจำเป็นต้องแกร่งมากขึ้น ผมจึงเน้นเรื่องความฟิตของร่างกายให้หนัก

ไฟต์นี้จะแข่งกัน 5 ยกๆ ละ 5 นาที แต่ผมชินกับการแข่งเพียงสามยก ดังนั้น ผมจึงต้องปรับการซ้อมเป็น 8-10 ยกๆ ละ 5 นาที เพื่อจะได้รู้ว่ามันเป็นยังไงตอนที่เราแข่ง แน่นอนว่าการซ้อมที่ยิม กับการแข่งขันบนสังเวียนนั้นไม่เหมือนกัน แต่ผมก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาตัวเอง

ที่ค่ายเราฝึกกันโหดมาก ทั้งในเชิงเทคนิคและปริมาณ แต่ตอนนี้เราก็เกือบเสร็จภารกิจแล้ว ผมต้องขอบคุณคู่ซ้อมทุกคนของผมจริงๆ พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเลียนแบบสไตล์ของ เซบาซเตียน

ONE: คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับคู่แข่งของคุณ

เคียมเรียน อับบาซอฟ: ผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวเขา นอกจากที่เขาหัวล้านและมีเครา (หัวเราะ) ผมยังไม่เคยเจอเขามาก่อน แต่เราจะได้เจอกันเร็วๆ นี้ และมันจะเป็นค่ำคืนที่ยาวนานและดุเดือดแน่นอน เราจะได้ทำความรู้จักแบบประชิดตัวเลยล่ะ!

ONE: คุณเห็นช่องว่างในเกมของคู่แข่งบ้างไหม

เคียมเรียน อับบาซอฟ: ดูเหมือนว่าเขาจะมีร่างกายที่แข็งแกร่ง และยืนสู้ได้ดี แต่จุดอ่อนของเขาคือเกมการปล้ำ นอกเหนือจากนั้น เขาเป็นนักสู้ที่มีทักษะดีเยี่ยม

ผมคิดว่าเรามีความคล้ายกัน ผมเก่งเรื่องการปล้ำมากกว่าเขา ขณะที่เขาเก่งเกมยืนสู้มากกว่าผม ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นไฟต์ที่น่าสนใจสำหรับแฟนๆ

ONE: คิดว่าไฟต์นี้เป็นการจับคู่ที่เหมาะสมหรือเปล่า

เคียมเรียน อับบาซอฟ: ผมไม่เคยเลือกคู่ต่อสู้ ไม่เคยเลือกว่าใครจะทำให้สถิติผมดีขึ้น ผมผ่านสังเวียนอาชีพมาแล้ว 25 ครั้ง ผมเผชิญหน้ากับทุกคน และไม่เคยมีความคิดที่ว่า พวกเขาเหมาะสมกับผมหรือไม่

เขาเป็นนักกีฬา ผมก็เป็นนักกีฬา และเราจะมาตัดสินกันว่าใครคือราชาของรุ่นนี้ มันน่าตื่นเต้นมาก! ผมอยากทดสอบตัวเอง ผมอยากรู้ว่าจะสามารถสู้ 5 ยกได้หรือไม่ ผมอยากรู้ว่าผมจะไปได้ถึงยกสุดท้ายไหม มันคือบททดสอบและความท้าทายสำหรับผม

ONE: ถ้าคุณชนะไฟต์นี้ คุณอยากทำอะไรเป็นสิ่งแรกในฐานะแชมป์โลก

เคียมเรียน อับบาซอฟ: ถ้าผมชนะไฟต์นี้ ต่อไปผมมองไปถึงการเป็นแชมป์โลกสองรุ่น ผมอยากลองท้าชิงในรุ่นมิตเดิลเวตกับ “ออง ลา เอ็น ซาง” ดูสักตั้ง

อ่านเพิ่มเติม:  “รีเกียน เออร์เซล” มั่นใจย้ำแค้น “นิกี โฮลสเกน” ได้แน่